ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีฤดูกาลถึง 4 ฤดู ในญี่ปุ่นแต่ละฤดูกาลมีความพิเศษในแบบฉบับของตัวเอง ในบทความนี้ เราจะแนะนำเสน่ห์ของญี่ปุ่นที่มีสี่ฤดู สิ่งที่น่ารู้และวิธีเพลิดเพลินไปกับแต่ละฤดูกาล รวมถึงเรื่องราวเกี่ยวกับวิธีการแบ่งฤดูแบบต่างๆ ปฏิทินเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลที่เราอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน
สารบัญ
- เสน่ห์ของ 4 ฤดูในญี่ปุ่น
- เพลิดเพลินกับ 4 ฤดูในญี่ปุ่น
- วิธีการแบ่งฤดูแบบอื่น
- เพลิดเพลินกับญี่ปุ่นตลอดทั้งปี
■ เสน่ห์ของ 4 ฤดูในญี่ปุ่น
ฤดูกาลและภูมิอากาศทั่วญี่ปุ่นอาจแตกต่างกันมากในแต่ละภูมิภาค เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นเป็นหมู่เกาะที่ทอดยาวจากเหนือจรดใต้ ด้วยเหตุนี้ ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น จึงมีภูมิอากาศแบบกึ่งอาร์กติกในขณะที่ทางตอนใต้ของญี่ปุ่นมี สภาพอากาศแบบกึ่งเขตร้อน นอกจากนั้นปริมาณหิมะและความชื้นระหว่างพื้นที่ที่หันหน้าเข้าหาทะเลญี่ปุ่นและพื้นที่ที่หันเข้าหามหาสมุทรแปซิฟิกก็แตกต่างกันเช่นกันเนื่องจากลมตามฤดูกาล แม้ว่าจะมีความแตกต่างในสภาพอากาศเนื่องจากภูมิประเทศและผลจากลมตามฤดูกาลที่ต่างกัน แต่ญี่ปุ่นโดยรวมก็อยู่ในเขตภูมิอากาศอบอุ่นในที่นี้ เราจะอธิบายถึงคุณลักษณะหรือเสน่ห์ของฤดูกาลทั้งสี่ของญี่ปุ่น
การเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างในแต่ละฤดู
ฤดูกาลถูกแบ่งอย่างชัดเจนในญี่ปุ่นซึ่งการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลของญี่ปุ่นนั้นชัดเจนกว่าประเทศอื่น และอาจส่งผลสำหรับผู้ที่อ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและอุณหภูมิ ด้วยเหตุผลดังกล่าว การใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นคือการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เหมาะกับอุณหภูมิและความชื้นของแต่ละฤดูกาล โปรดทราบว่าอุณหภูมิและความชื้นที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างกะทันหัน และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างกะทันหันเป็นเรื่องปกติในญี่ปุ่นซึ่งมักเกิดในช่วงเปลี่ยนฤดูหนึ่งไปยังอีกฤดูหนึ่ง ในช่วงนี้มักจะป่วยง่ายต้องระวังสุขภาพกันด้วย
ต้นไม้ ดอกไม้ต่างๆ ตามฤดูกาล
พืชพรรณเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าฤดูกาลกำลังเปลี่ยนหรือเปลี่ยนไป ที่ญี่ปุ่นมีดอกไม้และต้นไม้ที่เป็นตัวแทนของฤดูกาลเช่น ดอกไฮเดรนเยียในฤดูร้อน และดอกคามีเลียในฤดูหนาว ให้ความรู้สึกถึงฤดูกาลที่ต่างกัน ดอกซากุระเป็นตัวแทนของฤดูใบไม้ผลิและเป็นที่รู้จักกันดีในต่างประเทศเช่นกัน
การเพลิดเพลินกับฤดูกาลของญี่ปุ่นคือการเดินเล่นในละแวกใกล้เคียงที่พักอาศัยหรือที่สวนสาธารณะ เมื่อคุณพบกับพุ่มดอกไฮเดรนเยียที่กำลังเบ่งบานคุณจะรู้ได้ว่า "นี่เข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว " และในฤดูใบไม้ผลิต้นซากุระบานสะพรั่งสวยงาม ใบไม้จะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดงสดหรือสีเหลืองสดในฤดูใบไม้ร่วงก่อนจะร่วงลงในฤดูหนาว สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น การได้เห็นดอกไม้ต่างๆ ที่ผลิบานและการที่ใบไม้เปลี่ยนสี สร้างสีสันและความตื่นเต้นให้กับชีวิตประจำวันของเรา
อาหารตามฤดูกาล
ในญี่ปุ่นมีอาหารที่อร่อยขึ้นตามฤดูกาลหนึ่งๆ ฤดูกาลสำหรับอาหารเรียกว่า「旬 ชุน」ซึ่งหมายถึงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเก็บเกี่ยวหรือจับในกรณีของอาหารทะเลซึ่งเป็นวัตถุดิบเฉพาะ ในประเทศอื่นๆ เมนูอาหารในเมนูจะไม่ค่อยเปลี่ยนไปตามฤดูกาล แต่ที่ญี่ปุ่น อาหารของร้านอาหารส่วน ใหญ่จะเปลี่ยนเมนูตามฤดูกาล ฤดูกาลเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมญี่ปุ่น ซึ่งสะท้อนให้เห็นไม่เพียงแต่ในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นในวัฒนธรรมการกินอาหารของคนญี่ปุ่นด้วย อ่านเพิ่มเติม อาหารประจำฤดูกาลของคนญี่ปุ่น
บทความแนะนำ
■ เพลิดเพลินกับ 4 ฤดูในญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่นมีฤดูกาล 4 ฤดูได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว จากข้อมูลของสำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น แบ่งฤดูกาลตามเดือนได้ดังนี้
- ฤดูใบไม้ผลิ : ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม
- ฤดูร้อน : ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม
- ฤดูใบไม้ร่วง : ตั้งแต่เดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน
- ฤดูหนาว : ตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์
วิธีการเพลิดเพลินในแต่ละฤดูก็แตกต่างกัน ดังนี้
ฤดูใบไม้ผลิในญี่ปุ่น
(เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม)
ฤดูใบไม้ผลิในญี่ปุ่นมีอากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าแจ่มใสและมีฝนตกเป็นครั้งคราว อากาศส่วนใหญ่อบอุ่นและสบายแม้ว่าต้นฤดูใบไม้ผลิอาจค่อนข้างหนาวเย็นสำหรับบางคน ในฤดูใบไม้ผลิ นอกจากดอกซากุระแล้ว ดอกไม้ฤดูใบไม้ผลิอื่นๆ ได้แก่ดอกทิวลิป ดอกโบตั๋น ลูกพีช ดอกวิสทีเรีย และดอกเรพ มีหลายกิจกรรมที่น่าสนใจในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หนึ่งในกิจกรรมที่หลายคนรอคอยในฤดูใบไม้ผลิคือ ฮานามิหรือการชมดอกซากุระซึ่งเป็นกิจกรรมที่สนุกสนานในญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ ฤดูใบไม้ผลิยังเป็นฤดูกาลแห่งการเริ่มต้นใหม่ การเผชิญหน้าครั้งใหม่ และชีวิตใหม่อีกด้วย เนื่องจากพิธีสำเร็จการศึกษา การเริ่มต้นปีการศึกษาใหม่ และพิธีการรับน้องใหม่ของบริษัทต่างๆ ล้วนเกิดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ
บทความที่แนะนำ:
ฤดูร้อนในญี่ปุ่น
(เดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม)
ฤดูร้อนในญี่ปุ่นเป็นช่วงที่ร้อนที่สุดของปี ในช่วงนี้จะมีฝนตกมากหรืออาจจะเรียกได้ว่าฤดูฝน ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า สึยุ (梅雨) คือตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนกรกฎาคม ตลอดฤดูฝนจะมีฝนตกหนัก ชื้นแฉะแทบไม่มีแดดเลย สิ่งต่าง ๆ แย่ลงหลังจากฤดูฝนเนื่องจากอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นและเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน ซึ่งหมายถึงความชื้นที่สูงขึ้นและวันที่อากาศร้อนขึ้น โรคลมแดดหรือที่เรียกว่า เนชชูโช (熱中症) ในภาษาญี่ปุ่น เป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างมากในญี่ปุ่น ดังนั้นโปรดระวัง! ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแนะนำให้ดื่มน้ำประมาณ 3 ลิตรต่อวันในฤดูร้อน
ไฮไลท์ของฤดูร้อนในญี่ปุ่นคือเทศกาล มัตสึริ (祭り) และอีกมากมาย เทศกาลฤดูร้อน เทศกาลดอกไม้ไฟ เทศกาลดนตรี และงานเฉลิมฉลองอื่นๆ เกิดขึ้นทั่วประเทศญี่ปุ่น มีกิจกรรมมากมายเฉพาะฤดูร้อน เช่น สวนน้ำ ว่ายน้ำ ชายหาด จับแมลง และรับประทานอาหารประจำฤดูร้อน
บทความที่แนะนำ:
ฤดูใบไม้ร่วงในญี่ปุ่น
(เดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน)
ฤดูใบไม้ร่วงในญี่ปุ่นจะเย็นลงโดยมีอุณหภูมิและความชื้นใกล้เคียงกับฤดูใบไม้ผลิ เสื้อผ้าฤดูใบไม้ผลิและเสื้อผ้าฤดูใบไม้ร่วงสามารถใช้แทนกันได้ ช่วงแรกของฤดูใบไม้ร่วงซึ่งเพิ่งสิ้นสุดฤดูร้อน อากาศค่อนข้างอบอุ่น ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่นคือช่วงที่ใบแปะก๊วยเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและใบเมเปิ้ลเปลี่ยนเป็นสีแดง ดอกเบญจมาศ ดอกคอสมอส และดอกอะมาริลลิสเป็นดอกไม้ประจำฤดูใบไม้ร่วงในญี่ปุ่น อ่านเพิ่มเติม ดอกไม้ประจำฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ตั้งแต่สมัยโบราณ ชาวญี่ปุ่นนิยมชมพระจันทร์ที่เรียกว่าสึกิมิ (月見)ในช่วงเทศกาลนี้ จะมีการไหว้พระจันทร์ นอกจากนี้ยังมีอาหารตามฤดูกาลและสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมประจำฤดูใบไม้ร่วง นอกจากฤดูใบไม้ผลิแล้วยังมีผู้คนอีกมากมายที่เลือกฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูโปรดในญี่ปุ่น นอกจากนี้ อาหารญี่ปุ่นประจำฤดูใบไม้ร่วง ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน
ฤดูหนาวในญี่ปุ่น
(เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์)
ฤดูหนาวในญี่ปุ่นเรียกได้ว่าหนาวจัด ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์มีบางพื้นที่ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง หิมะตกเป็นเรื่องปกติในพื้นที่ทางตอนเหนือของญี่ปุ่นในโทโฮคุ ฮอกไกโด และสถานที่ต่างๆ ที่หันหน้าเข้าหาทะเลญี่ปุ่น พืชส่วนใหญ่จะตายในฤดูหนาว แต่ก็มีบางชนิดที่เจริญเติบโตได้ดี เช่นพลัม ดอกแดฟโฟดิล และดอกคาเมลเลีย
มีกิจกรรมและงานเฉลิมฉลองมากมายในช่วงฤดูหนาวในญี่ปุ่น มีงานประดับไฟในฤดูหนาวและทั่วประเทศคนญี่ปุ่นมักฉลองปีใหม่ด้วยการกลับบ้านเกิดเพื่อเฉลิมฉลองปีใหม่ อ่านเรื่องราวเพิ่มเติม ฤดูหนาวของญี่ปุ่น: แนะนำอาหารตามฤดูกาลและสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม
■ วิธีการแบ่งฤดูแบบอื่น
นอกจากฤดูกาลทั้งสี่แล้ว ยังมีวิธีอื่นๆ ในการแบ่งฤดูกาลในญี่ปุ่นอีกด้วย
24 節季 (Sekki) หรือ 24 ฤดูกาลแบบจีนคืออะไร?
24 節季 (Sekki) มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน「二十四節季 nijuushi sekki」เป็นวิธีการแบ่งปีออกเป็น 24 ฤดูกาลโดยแต่ละฤดูกาลมีระยะเวลาประมาณ 15 วัน เป็นที่รู้จักกันในชื่อ 24 節季 (Sekki) หรือ 24 Solar Termsในภาษาอังกฤษ จุดประสงค์ของปฏิทินคือเพื่อทำเครื่องหมายการเปลี่ยนแปลงของแต่ละฤดูกาลให้แม่นยำยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น โบชู (芒種) คือฤดูปลูกข้าว ไทโช (大暑 )คือฤดูร้อน ที่สำคัญไทเซ็ตสึ (大雪) คือฤดูหิมะตกหนัก
หลายสิ่งใน 24 ฤดูกาลแบบจีนไม่ได้ใช้อีกต่อไป แต่มีบางอย่างที่ยังคงใช้กันทั่วไปจนถึงทุกวันนี้ เช่นเดียวกับ ริชชุน (立春)ซึ่งเป็นวันแรกของฤดูใบไม้ผลิ ชุนบุน (春分)คือวันวิษุวัตในฤดูใบไม้ผลิ และเกชิ (夏至) คือวันครีษมายัน
ซัสเซ็ตสึ (雑節) คืออะไร?
เนื่องจาก 24 節季 (Sekki) มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน บางฤดูกาลในนี้จึงไม่เหมาะกับสภาพอากาศของญี่ปุ่นเอง ซัสเซ็ตสึ (雑節) เป็นฤดูกาลที่ญี่ปุ่นสร้างขึ้นเพื่อเติมเต็มช่องว่างที่ 24 節季 (Sekki) เหลืออยู่ ซัสเซ็ตสึที่มีชื่อเสียงที่สุดที่ยังคงโด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้คือ เซ็ตสึบุน ซึ่งเป็นวันเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้าย
นอกจากนี้ยังมี โดโย (土用) ซึ่งจัดขึ้นปีละ 4 ครั้ง กล่าวกันว่าจะมีอาหารประเภทที่ควรรับประทานในวันนั้น สำหรับ โดโยในฤดูร้อนเรียกว่า โดโย โนะ อุชิ โนะ ฮิ (土用の丑の日) หรือวันวัว จะกินปลาไหลกันในวันนั้น
■ เพลิดเพลินกับญี่ปุ่นตลอดทั้งปี
แม้ว่าจะมีประเทศอื่นที่มี 4 ฤดูกาลเช่นเดียวกับญี่ปุ่น แต่ญี่ปุ่นก็น่าจะเป็นประเทศที่ใช้ประโยชน์จากฤดูกาลได้มากที่สุด คุณสามารถเรียกมันว่าชื่นชมธรรมชาติหรือเพลิดเพลินกับประโยชน์ของธรรมชาติและใช้ประโยชน์จากฤดูกาลอย่างเต็มที่ ทุกคนก็พอใจกับวิธีมากมายในการเพลิดเพลินกับประเทศญี่ปุ่นตลอดทั้งปี คุณอาจพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะวางแผนการเดินทางของคุณให้ตรงกับฤดูกาล ไม่ต้องพูดถึงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม ซึ่งมักจะเป็นช่วงเวลาที่ตั๋วเครื่องบินมีราคาแพงและมีจำนวนจำกัด จริงๆแล้วคุณสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมและสิ่งที่ต้องทำมากมายในญี่ปุ่นนอกเหนือจากการเพลิดเพลินกับฤดูกาล เช่น สวนสนุกชื่อ (Disneyland, Universal Studio Japan) พิพิธภัณฑ์ แหล่งช้อปปิ้ง และสถานที่อื่นๆ อีกมากมายของญี่ปุ่นที่พร้อมมอบช่วงเวลาดีๆให้คุณเสมอ
