ต้นกำเนิดของชื่อที่กำหนดให้พระจันทร์เต็มดวงทุกเดือนใน 1 ปี ถูกตั้งขึ้นโดยชาวอเมริกันพื้นเมืองซึ่งชื่อที่ตั้งนั้นมีความเชื่อมโยงกับพื้นที่ ตามสภาพแวดล้อม และฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงไป ตามตำนานของชาวแองโกล-แซกซัน และตำนานพื้นเมืองของทวีปอเมริกาเหนือ จึงเป็นเพียงชื่อเรียกทางวัฒนธรรมเท่านั้น ไม่ใช่ชื่ออย่างเป็นทางการ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาชื่อนี้เป็นที่รู้จักในวัฒนธรรมญี่ปุ่นเช่นกัน
■มกราคม: Wolf Moon
สำหรับพระจันทร์เต็มดวงแรกของปี นั่นคือพระจันทร์เต็มดวงในเดือนมกราคมเป็นช่วงเวลาฤดูหนาวที่หิมะตก ชาวบ้านมักจะยินเสียงหมาป่าหอนออกมาจากป่า ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ จึงเป็นที่มาของชื่อ วูลฟ์ มูน (Wolf Moon)
บทความแนะนำ
■กุมภาพันธ์: Snow Moon
ช่วงที่หิมะที่ตกหนักที่สุด ทุกพื้นที่ขาวโพลนไปด้วยหิมะในฤดูหนาวซึ่งก็คือเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้ชื่อของหิมะ (Snow) ถูกนำไปตั้งชื่อ พระจันทร์เต็มดวงในเดือนนี้ว่า สโนว์มูน (Snow Moon)
■มีนาคม: Worm Moon
ช่วงสิ้นสุดฤดูหนาว ในเดือนมีนาคม หิมะเริ่มละลาย พื้นดินเริ่มอ่อนตัวลงและบรรดาไส้เดือนเริ่มโผล่ออกมาจากพื้นดิน จึงเป็นที่มาขอชื่อพระจันทร์เต็มดวงในเดือนนี้ว่า เวิร์มมูน (Worm Moon)
■เมษายน: Pink Moon
ช่วงเวลาของท้องทุ่งต่าง ๆ เต็มไปด้วยสีชมพูของดอกฟล็อกซ์ ในเดือนเมษายน เป็นที่มาของการตั้งชื่อพระจันทร์เต็มดวงของเดือนนี้ว่า พิงค์มูน (Pink Moon) เป็นชื่อที่ใช้เรียกพระจันทร์เต็มดวงสำหรับฤดูใบไม้ผลิ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะเห็นพระจันทร์สีชมพูทุกครั้งนะ
■พฤษภาคม: Flower Moon
ช่วงฤดูใบไม้ผลิ อากาศอบอุ่น ที่มีดอกไม้บานสะพรั่งในช่วงเดือนพฤษภาคม เป็นที่มาของการเรียกชื่อพระจันทร์เต็มดวงในเดือนนี้ว่า ฟลาวเวอร์มูน (Flower Moon)
■มิถุนายน: Strawberry Moon
เดือนมิถุนายนเป็นช่วงฤดูของสตรอเบอร์รี่ เป็นช่วงของการเก็บเกี่ยวผลสตรอเบอร์รี่แสนอร่อย จึงเป็นที่มาของการเรียกชื่อพระจันทร์เต็มดวงในเดือนนี้ว่า สตรอเบอร์รี่มูน (Strawberry Moon)
■กรกฎาคม: Buck Moon
ช่วงเวลาที่เหล่ากวางตัวผู้จะมีเขาใหม่งอกออกมาจากหัวในช่วงเดือนกรกฎาคม จึงเป็นที่มาของการเรียกชื่อพระจันทร์เต็มดวงในเดือนนี้ว่า บัคมูน (Buck Moon)
■สิงหาคม: Sturgeon Moon
ช่วงเดือนสิงหาคม บริเวณทะเลสาบที่ทำการประมงของชนเผ่าอัลกอนควิน จะพบปลาสเตอร์เจียนจำนวนมากเวียนว่ายอยู่ จึงเรียกพระจันทร์เต็มดวงเดือนนี้ว่า สเตอร์เจียนมูน (Sturgeon Moon)
■กันยายน: Corn Moon
ช่วงเวลาแห่งการเก็บเกี่ยวข้าวโพด ในช่วงเดือนกันยายน จึงเป็นที่มาของการเรียกชื่อพระจันทร์เต็มดวงในเดือนนี้ว่า คอร์นมูน (Corn Moon)
■ตุลาคม: Hunter's Moon
เดือนตุลาคมเป็นช่วงที่ผู้คนที่อาศัยอยู่ในซีกโลกเหนือ เตรียมตัวหาอาหารเพื่อเก็บไว้เตรียมตัวสำหรับการที่จะเข้าสู่ฤดูหนาว โดยการล่าสัตว์ หรือฆ่าสัตว์ที่เลี้ยงไว้ เพื่อถนอมอาหารไว้ใช้ในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง จึงเรียกพระจันทร์เต็มดวงเดือนนี้ว่า ฮันเตอร์มูน (Hunter Moon)
■พฤศจิกายน: Beaver Moon
ฝูงบีเวอร์จะกระตือรือร้นที่จะเตรียมตัวเพื่อเข้าสู่ฤดูหนาวในเดือนพฤศจิกายน และเป็นช่วงเวลาที่บรรดานักล่าสัตว์จะวางกับดัก เพื่อจับตัวบีเวอร์เพื่อนำเอาขนไปใช้ประโยชน์ได้ง่ายที่สุด จึงเรียกพระจันทร์เต็มดวงเดือนนี้ว่า บีเวอร์มูน (Beaver Moon)
■ธันวาคม: Cold Moon
เดือนธันวาคม เป็นช่วงเดือนที่ประเทศบนซีกโลกเหนือย่างเข้าสู่ฤดูหนาว จึงเรียกพระจันทร์เต็มดวงเดือนนี้ว่า โคลด์มูน (Cold Moon) แสดงถึงการเข้าสู่ฤดูหนาวเต็มตัว
คนอเมริกันจะมีการตั้งชื่อเรียกพระจันทร์เต็มดวงใน 1 ปี มี 12 เดือน การเรียกชื่อพระจันทร์เต็มดวงตามเดือนต่างๆดังที่กล่าวไปแล้ว จะมีชื่อพิเศษเพิ่มอีก 1 ชื่อคือ “Blue moon” ที่ตั้งเอาไว้เรียกพระจันทร์เต็มดวงครั้งที่ 2 หากมีการเกิดพระจันทร์เต็มดวงซ้ำในเดือนใดเดือนหนึ่ง ซึ่งนานๆจะเกิดขึ้นสักครั้งนึง