พิพิธภัณฑ์ราเมงชินโยโกฮาม่า Shin-Yokohama Raumen Museum เป็นสถานที่ที่ห้ามพลาดสำหรับคนรักราเมงในญี่ปุ่นพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รวบรวมร้านราเมงยอดนิยมจากทั่วญี่ปุ่นตั้งแต่ฮอกไกโดไปจนถึงฟุกุโอกะ บทความนี้จะแนะนำถึงสถานที่ สิ่งที่ต้องทำเมื่อไปถึงและวิธีการเดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์
■ พิพิธภัณฑ์ราเมงชินโยโกฮาม่าคือ
พิพิธภัณฑ์ราเมงชินโยโกฮาม่า Shin-Yokohama Raumen Museum ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 6 มีนาคม 1994 โดยเป็นพิพิธภัณฑ์ราเมงแห่งแรกของโลก โดยเริ่มต้นจากความคิดที่จะทำให้สามารถลิ้มรสราเมงชื่อดังจากเมืองต่างๆทั่วประเทศญี่ปุ่นได้ในที่เดียวโดยไม่ต้องเดินทางไป จนครบรอบ 20 ปีนี้ ได้ขยายพื้นที่จากที่ต่างๆทั่วญี่ปุ่นไปเป็นทั่วโลก เพื่อนำเสนอความน่าสนใจของราเมงไปยังทุกๆท่านได้มากขึ้น ร้านราเมงทุกร้านถูกออกแบบตามรูปแบบเมืองในญี่ปุ่นในช่วงโชวะ ในปี 1958 ซึ่งเป็นปีที่มีการคิดค้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นในญี่ปุ่น
บทความแนะนำ
■ ราเมงเลิศรสจากทั่วประเทศ
ราเมงถือกำเนิดขึ้นโดยมีรากฐานมาจากอาหารประเภทเส้นของประเทศจีน และมาผสมผสานเข้ากับวัฒนธรรมการกินของญี่ปุ่น ในปี 1859 ญี่ปุ่นได้เปิดท่าเรือ ทำให้มีคนจีนจำนวนมากเข้ามาในญี่ปุ่นในฐานะของล่ามแปลภาษาตะวันตก มีการก่อตั้งเขตที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติในเมืองท่าสำคัญๆ และพร้อมกันนั้นก็มีร้านอาหารจีนเกิดขึ้นติดๆกันจนกลายเป็น "ไชน่าทาวน์" ในไชน่าทาวน์นั่นเองที่มีการขายอาหารประเภทเส้นซึ่งกลายมาเป็นราเมงในเวลาต่อมา จนกระทั่งคนญี่ปุ่นเองก็เริ่มกินอาหารจีนกัน และนำเอาอาหารประเภทเส้นมาตั้งเป็นร้านแยกต่างหากหรือร้านราเมงขึ้น ข้อแตกต่างระหว่างอาหารประเภทเส้นของจีนกับราเมงอยู่ที่น้ำซุปหรือ DASHI ในภาษาญี่ปุ่น อาหารจีนไม่ได้ใช้ซุปในอาหารประเภทเส้นเท่านั้น แต่ยังใช้ในอาหารประเภทอื่นๆด้วย แต่ราเมงจะใช้ซุปที่ทำขึ้นมาเพื่อราเมงโดยเฉพาะ ซุปของราเมงจะมีส่วนประกอบอย่างน้อย 5 ชนิดไปจนถึงกว่า 40 ชนิดเลยทีเดียว จึงทำให้ซุปราเมงเป็นเสมือนหีบสมบัติของความอร่อย ที่ดึงดูดความสนใจของตนทั่วโลก
■ ราเมงร้านแรกที่กลับมาเปิดตัวอีกครั้ง
Rairaiken ราเมงร้านแรกที่สร้างกระแสราเมงบูมในญี่ปุ่น ก่อตั้งขึ้นในสมัยเมจิ 43 หรือ ปี พ.ศ. 2440 ต้องขอบคุณพิพิธภัณฑ์ราเมงชินโยโกฮาม่า Shin-Yokohama Raumen Museum ที่ทำให้ราเมงแห่งแรกของญี่ปุ่นกลับมาอีกครั้งในปี 2020 ที่พิพิธภัณฑ์ราเมง นี่เป็นโครงการสามฝ่ายที่พิพิธภัณฑ์ Shin-Yokohama Ramen ดำเนินการวิจัยและจัดเตรียมการทำร้าน Rairaiken ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง โดยการดำเนินการได้รับการยอมรับจากลูกหลานของ Rairaiken การทำร้าน Rairaiken ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งนี้ขึ้นอยู่กับการสืบหาพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่ตรวจสอบโดย Ramen Museum แต่มันอาจไม่ได้ทำให้ได้รสชาติในเวลานั้น 100% เนื่องจากมีชิ้นส่วนและจุดที่ไม่ชัดเจน อย่างไรก็ตามประเด็นที่ไม่ชัดเจน ได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่โดยได้รับการอนุมัติจากลูกหลานหลังจากการคาดเดาจากวัตถุดิบ สภาพอาหารและภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ในเวลานั้น ต้องไปลองชิมกันดูนะ
■ ร้านขายขนมย้อนยุค
Yuyake Shoten ยูยาเคะโชเท็น ร้านขายขนมย้อนยุคที่ไม่ควรพลาด คนญี่ปุ่นส่วนมากจะมีความทรงจำของตอนที่ไปซื้อของที่ร้านขนมตอนเด็กๆอยู่ ร้านนี้ได้จำลองสภาพ "ที่พบปะสังสรรค์ของเด็กๆ" ซึ่งก็คือร้านขนมที่ทุกๆคนมารวมตัวกันหลังเลิกเรียน ขนมและของเล่นกว่า 300 ชนิดที่วางเรียงอยู่ในร้านแห่งนี้ทำให้ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็รู้สึกตื่นเต้นไปกับขนมและสินค้ามากมาย เหมือนนั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลาไปยุคโชวะ
■ ค่าเข้าชม
อัตราค่าเข้าชมปกติ
ผู้ใหญ่ (12 ปี - ต่ำกว่า 60 ปี) 380 เยน กลุ่ม (15 คนขึ้นไป) คนละ 330 เยน
เด็ก (6 ปี - 12 ปี) 100 เยน กลุ่ม (15 คนขึ้นไป) คนละ 50 เยน เด็กเล็ก (ต่ำกว่า 6 ปี) ฟรี
ผู้สูงอายุ (ตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป) 100 เยน กลุ่ม (15 คนขึ้นไป) คนละ 50 เยน
บัตรฟรีพาส
บัตรพาส 6 เดือน 500 เยน บัตรพาสหนึ่งปี 800 เยน
ข้อมูลจาก: https://www.raumen.co.jp/thailand/
■ การเดินทางและเวลาทำการ
●สนามบินฮาเนดะไปยังพิพิธภัณฑ์ราเมงชินโยโกฮาม่า ใช้เวลา: ประมาณ 45 นาที
สนามบินฮาเนดะโดยสาร รถบัสรินโค / รถบัสเคคิวไปยัง ชินโยโกฮาม่า เดินไปยังพิพิธภัณฑ์ราเมงชินโยโกฮาม่า
●โยโกฮาม่าไปยังพิพิธภัณฑ์ราเมงชินโยโกฮาม่าใช้เวลา: ประมาณ 15 นาที
โยโกฮาม่าโดยสาร รถไฟฟ้าโยโกฮาม่าชิเอไปยัง ชินโยโกฮาม่า เดิน ทางออกหมายเลข 8 ไปยัง พิพิธภัณฑ์ราเมงชินโยโกฮาม่า
●ชินจูกุไปยังพิพิธภัณฑ์ราเมงชินโยโกฮาม่า ใช้เวลา: ประมาณ 50 นาท
ชินจูกุโดยสารJR สายยามาโนเตะเปลี่ยนรถที่ ชิบูย่า โดยสารสายโตคิวโตโยโกะ ไปยังคิคุนะเปลี่ยนสาย JR สายโยโกฮาม่าไปยังชินโยโกฮาม่า เดินไปยังพิพิธภัณฑ์ราเมงชินโยโกฮาม่า
เวลาเปิดทำการปกติ 11:00-22:00 (ช่วงโควิด 11:00-20:00)
คนรักราเมงญี่ปุ่นห้ามพลาดพิพิธภัณฑ์ราเมงชินโยโกฮาม่า Shin-Yokohama Raumen Museum เด็ดขาด เพราะมาที่เดียวคุณจะได้ชิมราเมงชื่อดังจากทั่วญี่ปุ่นในที่เดียว แนะนำให้สั่งถ้วยเล็ก จะได้ชิมหลายๆร้านนะ ที่สำคัญตู้ขายตั๋วอัตโนมัติมีภาษาไทยด้วยสะดวกมากๆเลย