การปีนภูเขาไฟฟูจิและเดินเขาในญี่ปุ่น

ภูเขาไฟฟูจิเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นและเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ค้นพบเสน่ห์ของภูเขาไฟฟูจิและคำแนะนำโดยละเอียดเกี่ยวกับทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการปีนพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ นอกจากนี้เรายังแนะนำ 4 สถานที่สำหรับปีนเขาในญี่ปุ่นที่เหมาะสำหรับนักปีนเขามือใหม่ และอีก 1 สถานที่สำหรับนักปีนเขาระดับกลางถึงผู้มีประสบการณ์

สารบัญ

• เสน่ห์แห่งขุนเขาของญี่ปุ่น
• ภูเขาไฟฟูจิ สัญลักษณ์ของญี่ปุ่น
• แนะนำ 5 สถานที่สำหรับปีนเขาในญี่ปุ่น
• ประสบการณ์จากผู้เขียน

ขอเริ่มบทความด้วยภาพพระอาทิตย์ขึ้นถ่ายจากยอดภูเขาไฟฟูจิ โดยทีมงานของเรา

■ เสน่ห์แห่งขุนเขาของญี่ปุ่น

ประเทศญี่ปุ่นมีธรรมชาติที่งดงาม มีทั้งภูเขา แม่น้ำ และมหาสมุทรล้อมรอบ ในส่วนนี้เราจะพูดถึงเสน่ห์แห่งขุนเขาของญี่ปุ่น

ภูเขาไฟเป็นต้นกำเนิดของออนเซ็น

ออนเซ็นมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับภูเขาไฟ ภูเขาไฟคือภูเขาที่ก่อตัวขึ้นเมื่อแมกม่าจากใต้พื้นดินปะทุขึ้นสู่ผิวดิน ออนเซ็นถูกสร้างขึ้นเมื่อน้ำและก๊าซใต้ดินได้รับความร้อนจากความร้อนของแมกม่าที่พุ่งขึ้นใกล้พื้นผิวโลก ทำให้มีน้ำและแก๊สพุ่งออกมา ในพื้นที่ภูเขาไฟแมกม่าจะอยู่ใกล้ผิวน้ำซึ่งทำให้น้ำพุร้อนเดือดได้ง่าย ออนเซ็นที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเรียกว่าออนเซ็นภูเขาไฟ นอกจากออนเซ็นจากภูเขาไฟแล้ว ในญี่ปุ่นยังมีบ่อออนเซ็นที่ไม่ได้มาจากภูเขาไฟอีกด้วย

*กระทรวงสิ่งแวดล้อม รัฐบาลญี่ปุ่น “คำจำกัดความของออนเซ็น”  

มุมมองและประสบการณ์ที่แตกต่างกันในแต่ละที่

ไม่มีภูเขาลูกใดเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นความกดอากาศ อุณหภูมิ หรือสภาพอากาศ ภูเขาแต่ละลูกก็แตกต่างกันไปตามสถานที่ตั้งในญี่ปุ่น สิ่งอื่นที่จะแตกต่างกันไปในแต่ละภูเขาคือความสูง ขนาด ภูมิประเทศ และที่สำคัญที่สุดคือวิวทิวทัศน์ทั้งหมด แม้แต่ภูเขาลูกเดียวกันก็ยังมีทิวทัศน์ที่แตกต่างกันไปตามตำแหน่งที่คุณอยู่บนภูเขา มีภูเขาที่มีชื่อเสียงในด้านมุมมองจากยอดเขา ภูเขาที่สวยงามเมื่อมองดู หรืออาจจะมีทั้งสองอย่าง

กิจกรรมมากมายให้เพลิดเพลินบนภูเขา

มีกิจกรรมมากมายให้เพลิดเพลินบนภูเขาในญี่ปุ่น สำหรับคนชอบแอคทีฟ ชอบออกกำลังกายมีการเดินป่า ปีนเขา และกีฬาฤดูหนาว เช่น สกีและสโนว์บอร์ดบนภูเขาที่มีหิมะทับถมอยู่ ญี่ปุ่นมีชื่อเสียงเป็นพิเศษในด้านการเล่นสกีเนื่องจากคุณภาพและความละเอียดของหิมะ สำหรับผู้ที่ชอบการเดินทางแบบผ่อนคลาย มีภูเขาสำหรับการไปแช่ออนเซ็น จุดชมวิวแบบพาโนรามาที่สามารถขับรถไปถึงได้ และตั้งแคมป์ ยิ่งไปกว่านั้น ทะเลสาบที่ด้านล่างของภูเขาก็มีอยู่ทั่วไป เช่นเดียวกับทะเลสาบทั้งห้าที่มีอยู่รอบภูเขาไฟฟูจิ มีกิจกรรมมากมายให้บริการที่ทะเลสาบภูเขาไฟฟูจิ มีการตั้งแคมป์ ว่ายน้ำ พายเรือ ตกปลา เป็นต้น

บทความแนะนำ

ประกาศ!! Ponga-chan คาแรคเตอร์ของ WeXpats อย่างเป็นทางการ

การทำงานในญี่ปุ่น

วิธีติดตั้งแอป Suica บัตรรถไฟญี่ปุ่นบนโทรศัพท์มือถือ

การท่องเที่ยวในญี่ปุ่น

แฟชั่นฤดูใบไม้ร่วงสำหรับการท่องเที่ยวญี่ปุ่น

การอาศัยในญี่ปุ่น

เปิดประสบการณ์เปลี่ยนงานจากรีสอร์ตบนเกาะสู่โรงแรมในโตเกียวด้วย WeXpats...

การทำงานในญี่ปุ่น

เที่ยวไร่ชาญี่ปุ่น พักโฮมสเตย์ สัมผัสวิถีชีวิตชาวไร่เก็บชาที่ญี่ปุ่น

การท่องเที่ยวในญี่ปุ่น

■ ภูเขาไฟฟูจิ สัญลักษณ์ของญี่ปุ่น

ภูเขาไฟฟูจิ หรือฟูจิซัง (富士山) มีความสำคัญต่อประเทศญี่ปุ่นมาก ตั้งแต่สมัยโบราณ ภูเขาไฟฟูจิเป็นสถานที่เคารพสักการะของผู้คนมากมาย และงานศิลปะหลายชิ้นถูกสร้างขึ้นโดยมีภูเขาไฟฟูจิเป็นแรงบันดาลใจ ภูเขาไฟฟูจิสามารถเพลิดเพลินได้ไม่เพียงแค่การชมเท่านั้น แต่ยังสามารถปีนขึ้นไปพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ ภูเขาไฟที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นได้อีกด้วย

สำหรับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการปีนภูเขาไฟฟูจิ รวมถึงสภาพอากาศ สถานะการปีนเขา ข้อจำกัด สภาพเส้นทาง และอื่นๆ อีกมากมาย: เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของการปีนภูเขาไฟฟูจิ

แนะนำภูเขาไฟฟูจิเบื้องต้น

ภูเขาไฟฟูจิตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดชิซูโอกะและจังหวัดยามานาชิของญี่ปุ่น เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นด้วยความสูง 3,776 เมตร ภูเขาไฟฟูจิจัดเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ แม้ว่าการปะทุครั้งสุดท้ายเมื่อ 300 ปีที่แล้วในวันที่ 16 ธันวาคม 1707 แต่การเตรียมภัยพิบัติและแผนการอพยพยังคงดำเนินอยู่เสมอเผื่อในกรณีที่เกิดการปะทุขึ้นมา ประวัติของภูเขาไฟฟูจินั้นน่าสนใจทีเดียว ภูเขาไฟฟูจิประกอบขึ้นจากภูเขาไฟเก่า เริ่มจากภูเขาโคมิทาเกะและภูเขาอะชิทากะ ซึ่งทั้งสองมีความสูงประมาณ 2,000 เมตรและมีอายุมากกว่า 400,000 ปี การปะทุขนาดใหญ่ในช่วงหลายปีทำให้ลาวาร้อนรวมภูเขา 2 ลูกเป็นภูเขาลูกเดียวที่รู้จักกันในชื่อ โคฟุจิ (古富士) ภูเขาไฟฟูจิในปัจจุบันที่เรารู้จักในปัจจุบันเป็นผลมาจากการปะทุที่เกิดขึ้นหลังจากที่โคฟุจิก่อตัวขึ้น

การปีนภูเขาไฟฟูจิ เส้นทางปีนเขาทั้ง 4 เส้นทาง

หนึ่งวิธีในการเพลิดเพลินกับภูเขาไฟฟูจิคือการปีนเขา ในส่วนนี้เราจะแนะนำเส้นทางปีนเขา 4 เส้นทางเพื่อพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ

คำเตือน:

• แต่ละเส้นทางมีสถานีเริ่มต้นของตัวเองหรือสถานีที่ 5 บนภูเขาไฟฟูจิที่สามารถไปถึงได้ด้วยรถยนต์ แต่จากจุดนั้นห้ามรถยนต์ขึ้นไป

• ให้ความสนใจกับรหัสสีของเส้นทางที่คุณเลือก ระวังอย่าให้ปะปนกันและเดินผิดเส้นทาง

• เรียนรู้เกี่ยวกับเส้นทางล่วงหน้าและเลือกเส้นทางที่เหมาะกับทักษะและระดับความฟิตของคุณ

• อย่าประมาทภูเขาไฟฟูจิ - ความผิดพลาด ความประมาทอาจนำไปสู่อุบัติเหตุ

เส้นทางสีเหลือง: โยชิดะ (Yoshida Trail)

เส้นทางโยชิดะซึ่งมีสีเหลืองเป็นเส้นทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แนะนำสำหรับนักเดินเขามือใหม่เนื่องจากเป็นเส้นทางที่ง่ายที่สุด สถานีเริ่มต้นอยู่ที่สถานีที่ 5 เส้นทางฟูจิสุบาชิริ ที่จังหวัดยามานาชิ สามารถเข้าถึงสถานีเริ่มต้นนี้โดยรถประจำทาง มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่สถานีเริ่มต้น ได้แก่ ร้านค้า ห้องน้ำสาธารณะ และศูนย์ข้อมูล ประมาณสถานีที่ 8 บนเส้นทางโยชิดะจะเชื่อมกับเส้นทางสีแดงสุบาชิริ ซึ่งทำให้มีผู้คนพลุกพล่านพอสมควร เวลารวมโดยประมาณในการขึ้นไปถึงจุดสูงสุดคือ 6 ชั่วโมง และ 4 ชั่วโมงในการเดินลงมา ภูมิประเทศของเส้นทางโยชิดะโดยทั่วไปเป็นที่ราบและคดเคี้ยว แต่หลังจากสถานีที่ 7 พื้นดินจะค่อนข้างไม่เรียบเดินลำบาก มีที่พักบนภูเขาสำหรับพักค้างคืนและ/หรือพักผ่อนตามทางขึ้นเขา แต่ไม่มีระหว่างทางลง หากต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉินจะมีศูนย์ปฐมพยาบาลที่ สถานีที่ 5, 7 และ 8

เส้นทางสีน้ำเงิน: ฟูจิโนะมิยะ (Fujinomiya Trail)

เส้นทางที่เหลืออีก 3 เส้นทาง รวมถึงเส้นทางนี้อยู่ที่ด้านภูเขาไฟฟูจิทางจังหวัดชิซูโอกะ เส้นทางฟูจิโนะมิยะซึ่งมีสีน้ำเงินเป็นเส้นทางที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสองรองจากเส้นทางสีเหลืองโยชิดะ เส้นทางนี้ปีนยากเพราะลักษณะเป็นหินและสูงชัน แต่เป็นที่นิยมเพราะเป็นเส้นทางที่ใช้เวลาสั้นที่สุด ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงในการขึ้น และ 3 ชั่วโมงในการลง สถานีเริ่มต้นคือสถานีฟูจิโนะมิยะที่ 5 สามารถเข้าถึงได้โดยรถบัสจากรถไฟสาย JR Minobu สถานีฟูจิโนะมิยะ มีที่พักบนภูเขามากมายตามเส้นทางนี้ในทุกสถานี มีศูนย์ปฐมพยาบาลอยู่ที่สถานีที่ 8 หากคุณต้องการความช่วยเหลือ

เส้นทางสีแดง: สุบาชิริ (Subashiri Trail)

เส้นทางสุบาชิริ ซึ่งเป็นเส้นทางสีแดง จะใช้เส้นทางเดียวกับเส้นทางโยชิดะ ตั้งแต่สถานีที่ 8 เป็นต้นไป สถานีเริ่มต้นคือสถานีสุบาชิริที่ 5 ซึ่งสามารถเข้าถึงได้โดยรถบัสจากสถานีชินมัตสึดะและสถานีโกเทมบะ มีสิ่งอำนวยความสะดวกไม่กี่แห่งที่จุดเริ่มต้น แต่มีห้องน้ำสาธารณะ เวลาในการไปถึงยอดเขาโดยประมาณคือ 6 ชั่วโมง เช่นเดียวกับเส้นทางโยชิดะ ทางลงใช้เวลาน้อยลงประมาณ 3 ชั่วโมงเนื่องจากภูมิประเทศที่เดินง่ายกว่า ที่พักบนภูเขามีให้บริการบนทางขึ้นเท่านั้น ควรเดินทางด้วยความระมัดระวังและแนะนำให้นำชุดปฐมพยาบาลมาด้วยเนื่องจากไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกและศูนย์ปฐมพยาบาลบนเส้นทางนี้ 

เส้นทางสีเขียว: โกเทมบะ (Gotemba Trail)

เส้นทางโกเทมบะ ที่มีสีเขียวเป็นเส้นทางที่คนน้อยที่สุด เพราะเป็นเส้นทางที่ยาวที่สุดและยากที่สุด เหมาะสำหรับนักปีนเขาที่มีประสบการณ์ ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมงในการขึ้นถึงยอดภูเขาไฟ แต่การลงมาใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้น ภูมิประเทศจนถึงสถานีที่ 8 ประกอบด้วยกรวดภูเขาไฟ สิ่งอื่นที่ต้องระวังคือหมอกและจุดสังเกตน้อยลงซึ่งมาพร้อมกับอันตรายจากการหลงทาง สถานีเริ่มต้นของเส้นทางโกเทมบะคือ โกเทมบะนิวเทรลสถานีที่ 5 ซึ่งสามารถเข้าถึงได้โดยรถบัสจากสถานีโกเทมบะ สิ่งอำนวยความสะดวกและที่พักบนภูเขามีจำกัด และไม่มีศูนย์ปฐมพยาบาลตลอดเส้นทาง

※ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของการปีนเขาฟูจิ "เส้นทางภูเขา"  

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการปีนภูเขาไฟฟูจิ

1. ภูเขาไฟฟูจิสามารถปีนขึ้นได้ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงกันยายนซึ่งเป็นฤดูปีนเขาเท่านั้น โดยจะประกาศปีต่อปี

2. สำหรับการปีนเขาในช่วงเวลาอื่น ๆ ต้องได้รับอนุญาตเป็นพิเศษ ตรวจสอบที่นี่ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม

3. ภูเขาไฟฟูจิสามารถปีนได้ฟรี อย่างไรก็ตามโปรดบริจาคเงิน 1,000 เยนให้กับแคมเปญบริจาคเพื่อการอนุรักษ์ภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งจะนำไปใช้ในการบำรุงรักษา ปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวก และอนุรักษ์ภูเขาไฟฟูจิ

4. ควรพกเงินสดอย่างน้อย 10,000 - 30,000 เยนสำหรับห้องน้ำ เครื่องดื่มและเสบียงอาหาร และพักค้างคืนในที่พักบนภูเขาไฟฟูจิ เพราะที่นั่นไม่รับบัตรเครดิต

5. หลายคนเลือกที่จะพักค้างคืนบนภูเขาไฟฟูจิ แนะนำให้จองล่วงหน้าดีกว่า

6. ไม่อนุญาตให้ตั้งแคมป์บนภูเขาไฟฟูจิ

7. อุณหภูมิบนภูเขาไฟฟูจิในช่วงฤดูปีนเขาโดยเฉลี่ยต่ำกว่า 10°C บนยอดภูเขาไฟฟูจิ อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 5 ถึง 8°C โดยมีโอกาสที่อุณหภูมิจะลดลงต่ำกว่า 0°C ด้วย

8. วันธรรมดาเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการปีนภูเขาไฟฟูจิเพื่อจะหลีกเลี่ยงฝูงชน ชั่วโมงเร่งด่วนที่มีคนเยอะคือช่วงบ่ายแก่ๆ และเที่ยงคืน

9. พระอาทิตย์ขึ้นประมาณ 04.30 น. หลายคนเริ่มเดินจากสถานีต้นทางเวลา 22.00 น. หรือเที่ยงคืนเพื่อให้ทันพระอาทิตย์ขึ้น แต่ก็ต้องเผื่อเวลาเดินทางไว้เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

10. ในกรณีฉุกเฉิน ให้ขอความช่วยเหลือที่พักบนภูเขาไฟฟูจิ ถ้าไม่มีศูนย์ปฐมพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียง ติดต่อได้ ที่นี่

วิวภูเขาไฟฟูจิ

การขับรถไปรอบๆ ภูเขาไฟฟูจิ ตั้งแคมป์ที่หนึ่งในทะเลสาบทั้งห้าของภูเขาไฟฟูจิ เยี่ยมชมจุดถ่ายภาพภูเขาไฟฟูจิที่สำคัญ สวน Arakurayama Sengen เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการชมวิวภูเขาไฟฟูจิ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและร้านกาแฟมากมายรอบๆ ยามานาชิและจังหวัดชิซูโอกะ ที่คุณสามารถชมวิวภูเขาไฟฟูจิได้ในขณะรับประทานอาหาร 

■ แนะนำ 5 สถานที่สำหรับปีนเขาในญี่ปุ่น

ในส่วนนี้เราจะแนะนำ5 สถานที่สำหรับปีนเขาในญี่ปุ่นที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเดินป่าได้

ภูเขาทาคาโอะ 高尾山 (โตเกียว) 

ภูเขาทาคาโอะตั้งอยู่ในเมืองฮาจิโอจิ กรุงโตเกียว เป็นจุดปีนเขาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคคันโต หลายคนไปเที่ยวภูเขาทาคาโอะแบบไปเช้าเย็นกลับ หากคุณไม่ต้องการเดินขึ้นไปตลอดทาง มีบริการเคเบิลคาร์ที่จะพาคุณขึ้นไปถึงครึ่งทางของภูเขา สิ่งอื่น ๆ ที่น่าสนใจบนภูเขาทาคาโอะ ได้แก่ การเยี่ยมชมสวนลิงและสวนพืชป่า วัดยะคุโออิน พิพิธภัณฑ์ทาคาโอะ599 เกี่ยวกับธรรมชาติ และโรงอาบน้ำออนเซ็น

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ Takaosan Railway Official Website

ภูเขามิตาเกะ 御岳山 (โตเกียว) 

ภูเขามิตาเกะเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติจิจิบุทามะไคที่ครอบคลุมจังหวัดไซตามะ ยามานาชิ นางาโนะ และโตเกียว ภูเขามิตาเกะตั้งอยู่ในเมืองโอเมะ กรุงโตเกียว เช่นเดียวกับภูเขาทาคาโอะ มีบริการเคเบิลคาร์ที่จะนำคุณขึ้นไปครึ่งทางของภูเขา นอกจากเป็นสถานที่ยอดเยี่ยมในการเพลิดเพลินกับธรรมชาติแล้ว ภูเขามิตาเกะยังมีชื่อเสียงในเรื่องการบูชาภูเขาและมีจุดศักดิ์สิทธิ์มากมาย มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติหลายเส้นทาง เส้นทางที่มีชื่อเสียงที่สุดคือเส้นทาง Rock Garden

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ Mitake Tozan Official Website

ภูเขาอาซาฮี 旭岳 (ฮอกไกโด)

ภูเขาอาซาฮี หรือที่รู้จักกันในชื่ออาซาฮีดาเกะในภาษาญี่ปุ่น เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในฮอกไกโด ตั้งอยู่ในเมืองฮิกาชิคาวะและสามารถเข้าถึงได้จากสถานีอาซาฮิคาวะ ภูเขาเปิดให้เดินป่าในฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงซึ่งมีผู้คนมากมายมาเยี่ยมชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนกันยายนซึ่งเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ในฤดูหนาว ภูเขาจะปกคลุมไปด้วยหิมะเหมาะแก่การเล่นสกี สโนว์บอร์ด และกีฬาฤดูหนาวอื่นๆ หลังจากขึ้นกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนภูเขาแล้ว การเดินขึ้นเขาค่อนข้างสั้นและสบายๆ ประมาณ 1 ชั่วโมง

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ Asahidake Daisetsuzan Official Website

ภูเขาโนริคุระ 乗鞍岳 (นากาโนะ, กิฟุ)

ภูเขาโนริคุระเป็นภูเขาสูง 3,000 เมตร สำหรับภูเขาที่สูงเช่นนี้ การปีนขึ้นไปนั้นง่ายอย่างน่าประหลาดใจแม้แต่สำหรับผู้เริ่มต้น เป็นจุดยอดนิยมสำหรับนักเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับ มีเส้นทางเดินป่าทั้งหมด 5 เส้นทางบนภูเขาโนริคุระที่จะนำคุณไปสู่จุดหมายปลายทางที่แตกต่างกันไป ซึ่งแต่ละเส้นทางก็มีเสน่ห์แตกต่างกันไป เส้นทางที่ยากที่สุดคือภูเขาเคงะมิเนะเนื่องจากเส้นทางเป็นหิน แต่จะพาคุณไปยังจุดสูงสุดของภูเขาโนริคุระ

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ Mount Norikura Official Website

ภูเขาทาเทยามะ 立山 (โทยามะ)

ภูเขาทาเทยามะตั้งอยู่ในจังหวัดโทยามะ เปิดให้เดินป่าในฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น หลายคนปีนภูเขาทาเทยามะในฤดูใบไม้ร่วงเพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสี แม้ว่าช่วงครึ่งแรกของภูเขาทาเทยามะจะปีนได้ค่อนข้างง่าย แต่ช่วงครึ่งหลังจะยากขึ้นมากเนื่องจากทางลาดชันที่เป็นหิน ภูเขาทาเทยามะเหมาะสำหรับนักปีนเขาระดับกลางถึงผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เนื่องจากเป็นการปีนที่ค่อนข้างยาก

ภูเขาทาเทยามะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางแอลป์ทาเทยามะคุโรเบะ ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวบนภูเขา มีภูเขาอื่นๆ ตลอดเส้นทางที่คุณสามารถปีนขึ้นไปได้ เช่น ภูเขามูโรโดะและภูเขาโจโดะ ไฮไลท์อื่นๆ ของเส้นทาง ได้แก่ เขื่อนคุโรเบะและกำแพงหิมะสูงหลายเมตรในฤดูหนาว

■ ประสบการณ์จากผู้เขียน

จากประสบการณ์ของผู้เขียนที่มีโอกาสปีนภูเขาไฟฟูจิครั้งหนึ่งในชีวิต บอกได้เลยว่าโหด! มัน! ฮา! สิ่งที่อยากจะแนะนำก่อนที่จะมาปีนภูเขาไฟฟูจิคือ ควรทำตัวให้ฟิต ออกกำลังกาย หรือซ้อมปีนเขาที่อื่นก่อน เพราะระยะทางนั้นไกล ความกดอากาศต่ำ หากไม่ฟิตจริงไม่แนะนำให้ขึ้นไป อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม คือ 

1. เสื้อผ้าปีนเขาที่สามารถกันลมกันฝนได้ เพราะด้านบนลมแรงมากและอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยอาจจะมีฝนในบางครั้ง

2. เสื้อกันฝน ผ้าคลุมกระเป๋ากันฝน

3. รองเท้าปีนเขา สำคัญเพราะถ้าเราใส่รองเท้าธรรมดาถ้าเกิดขาดขึ้นมาบนนั้นก็ไม่มีให้เปลี่ยน หรือไม่ก็กลับลงมารองเท้าก็พังต้องทิ้งไปเลย

4. ไม้เท้าเดินป่า หรืออาจจะซื้อไม้ค้ำตรงสถานีต้นทางก็ได้ และสามารถแสตมป์ตามจุดต่างๆจนถึงบนยอดภูเขาไฟฟูจิ ไม้เท้าเดินป่าจะช่วยผ่อนแรงได้เยอะมาก และตอนลมแรงๆก็สามารถยึดเกาะได้ แนะนำให้เอาขึ้นไปจริงๆ

5. อาหาร ขนมขบเคี้ยว ชิ้นเล็กเบาๆ เจลให้พลังงาน น้ำเปล่า จริงๆตามจุดพักก็มีขายแต่ราคาสูงและบางครั้งหากคนเยอะ ของก็จะหมด จึงแนะนำให้เตรียมไปบางส่วน

6. ถุงร้อน (ไคโร) เพราะด้านบนอุณหภูมิอาจจะลดลงต่ำมาก

7. หน้ากาก/แว่นตา สำหรับป้องกันฝุ่น เอาจริงๆตอนแรกคิดว่าไม่จำเป็น แต่ลมแรงมากฝุ่นหินภูเขาไฟเข้าตาเข้าจมูกตลอดระยะเวลาที่เดินขึ้นและลงเกือบสิบชั่วโมงนั้น ถ้ามีก็จะดีกว่า ผู้เขียนเคยพลาดมาแล้ว

8. ถุงขยะ สำหรับใส่ขยะของตัวเอง

9. ไฟคาดศีรษะ สำหรับการเดินทางกลางคืน

10. ของส่วนตัวที่จำเป็นอื่นๆ เช่น แว่นกันแดด,ครีมกันแดด ผ้าขนหนูสำหรับซับเหงื่อ โทรศัพท์มือถือ ที่ชาร์จแบต แต่ไม่แนะนำให้แบกของหนักมากเพราะมันไกลจริงๆ

หลังจากที่กลับลงมาก็เตรียมตัวนอนพักยาวได้เลย ก่อนที่จะไปปีนภูเขาไฟฟูจิผู้เขียนออกกำลัง ไปซ้อมปีนเขาที่อื่นสองสามครั้งแต่กลับมาแทบจะไม่ไหว ชีวิตนี้ขอครั้งเดียวพอแล้ว ยอมใจคนที่ไปปีนภูเขาไฟฟูจิทุกปีจริงๆ