【ญี่ปุ่น】การเปิดใช้ซิมการ์ดและโทรศัพท์มือถือในญี่ปุ่น สำหรับผู้ที่อยู่อาศัยระยะยาว

โทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตถือว่าเป็นปัจจัยที่ 5 ที่เราไม่สามารถขาดได้แล้วในยุคปัจจุบัน อาจจะเป็นเรื่องแรกๆที่เราต้องรีบจัดการเมื่อเราย้ายมาอยู่ต่างประเทศ สิ่งที่จำเป็นในการเปิดใช้โทรศัพท์คือบัตรเครดิตซึ่งเราได้อธิบายวิธีการเปิดใช้บริการในบทความการทำบัตรเครดิตที่ญี่ปุ่น วันนี้จะมาแนะนำข้อมูลของซิมการ์ดและโทรศัพท์มือถือสำหรับผู้ที่มีแพลนจะมาอยู่ญี่ปุ่นระยะยาวกันค่ะ

■ ซิมการ์ดและโทรศัพท์มือถือสำหรับผู้ที่อยู่อาศัยระยะยาวคือ?

หากคุณกำลังเดินทางมาระยะสั้นคุณสามารถเดินทางใช้ซิมการ์ดแบบเติมเงินเช่น Japan Travel SIM ได้ หรือเปิดโรมมิ่งมาจากไทยก็สะดวกดี ในทางกลับกันหากคุณอาศัยอยู่ญี่ปุ่นมากกว่าหนึ่งปี การสมัครใช้บริการซิมการ์ดราคาประหยัดพร้อมการชำระเงินรายเดือนในญี่ปุ่นน่าจะคุ้มค่ากว่า

บทความแนะนำ

ประกาศ!! Ponga-chan คาแรคเตอร์ของ WeXpats อย่างเป็นทางการ

การทำงานในญี่ปุ่น

วิธีติดตั้งแอป Suica บัตรรถไฟญี่ปุ่นบนโทรศัพท์มือถือ

การท่องเที่ยวในญี่ปุ่น

แฟชั่นฤดูใบไม้ร่วงสำหรับการท่องเที่ยวญี่ปุ่น

การอาศัยในญี่ปุ่น

เปิดประสบการณ์เปลี่ยนงานจากรีสอร์ตบนเกาะสู่โรงแรมในโตเกียวด้วย WeXpats...

การทำงานในญี่ปุ่น

[รีวิว] วอร์เนอร์ บราเธอร์ส สตูดิโอทัวร์ โตเกียว - เดอะ เมคกิ้ง ออฟ แฮ...

การท่องเที่ยวในญี่ปุ่น

■ ประเภทของซิมการ์ด

ซิมการ์ดพื้นฐานของญี่ปุ่นแข้อมูลเท่านั้น (Data Only) แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ข้อมูลเท่านั้น (Data Only) และ ข้อมูล + โทร (Data+Voice) 

1. ข้อมูลเท่านั้น(Data Only) การเลือกซิมประเภทนี้ไม่ได้หมายความว่าคุณจะใช้ได้เพียงอินเทอร์เน็ตเท่านั้น แต่คุณยังสามารถส่งข้อความโดยใช้ SMS ได้แต่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม คุณเพียงแค่จะไม่สามารถโทรออกหรือรับสายปกติได้ แต่สามารถใช้ Skype, WhatsApp และแอพอื่น ๆ ที่อนุญาตให้โทรผ่านอินเทอร์เน็ตได้

2. ข้อมูล + โทร(Data+Voice) คือใช้งานได้ทั้งอินเทอร์เน็ตและโทรออกและรับสายปกติได้

■ เราสามารถใช้โทรศัพท์มือถือที่นำมาจากต่างประเทศได้หรือไม่?

ก่อนอื่นโทรศัพท์ของคุณต้องปลดล็อกซิมเรียบร้อยแล้ว ประการที่สองโทรศัพท์ของคุณต้องรองรับความถี่ของญี่ปุ่น คุณสามารถตรวจเช็คได้ที่ WillMyPhoneWork.net เพื่อตรวจสอบว่าโทรศัพท์ของคุณใช้งานได้ในญี่ปุ่นหรือไม่

■ ประมาณการค่าใช้จ่ายต่อเดือน

บริษัทมือถือรายใหญ่ในญี่ปุ่นมีสาม บริษัท ได้แก่ docomo, au และ SoftBank เนื่องจากบริษัทเหล่านี้มีเครือข่ายการสื่อสารของตัวเอง จึงสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย ในทางกลับกันมีข้อเสียเช่นค่าบริการรายเดือน 7,000 เยนขึ้นไปและจะมีค่าปรับหากคุณยกเลิกสัญญาภายใน 2 ปีหลังจากทำสัญญา หากคุณเลือกใช้ซิมราคาถูกเช่านอกเหนือจากสามบริษัทข้างต้น ที่เรียกว่า MVNO ย่อมาจาก“ Mobile Virtual Network Operator” ซึ่งหมายถึงบริการที่ดูแลโดยระบบเครือข่ายของผู้ให้บริการรายใหญ่รายหนึ่งในญี่ปุ่น บริการอินเทอร์เน็ตอาจจะมีความเร็วที่ลดลงแต่ค่าบริการจะถูกกว่า ราคาค่าบริการประมาณ 1,000 เยนต่อเดือนแล้วแต่แพลนที่เลือก

■ เครือข่ายที่แนะนำ

เครือข่ายที่ที่น่าจะเหมาะกับชาวต่างชาติและมีราคาค่าบริการต่อเดือนที่ถูกซึ่งคุณสามารถเช็คโปรโมชั่นและเลือกแพลนที่เหมาะกับคุณได้ที่เว็บไซต์ของเครือข่ายนั้นๆ

1. GTN Mobile ให้บริการเป็นภาษาอังกฤษ ราคาเริ่มต้นที่ 980 เยนไม่รวมภาษี

2. IIJmio ให้บริการเป็นภาษาอังกฤษ ราคาเริ่มต้นที่ 990 เยนไม่รวมภาษี

3. mobal ให้บริการเป็นภาษาอังกฤษ ราคาเริ่มต้นที่ 1,000 เยนไม่รวมภาษี 

4. JP SMART ให้บริการเป็นภาษาอังกฤษ ราคาเริ่มต้นที่ 1,980 เยนไม่รวมภาษี

5. Rakuten Mobile ให้บริการเป็นภาษาญี่ปุ่น ราคาเริ่มต้นที่ 0 เยนใช้ได้ไม่เกิน1Gไม่รวมภาษี(โปรดตรวจสอบอีกครั้งที่เว็บไซต์ของผู้ให้บริการ)

■ สถานที่จำหน่ายและการชำระค่าบริการ

คุณสามารถติดต่อได้ที่ร้านค้าของผู้ให้บริการที่คุณสนใจได้โดยตรง หรือคุณอาจจะเลือกใช้บริการที่บิ๊กคาเมร่า โยโดบาชิ ที่ขายอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือได้ เพราะส่วนใหญ่จะรวบรวมเครือข่ายผู้ให้บริการทั้งหมดไว้ในที่ร้านแล้ว ค่อนข้างสะดวกเลยทีเดียว

■ ทางเลือกอื่น

สำหรับผู้ที่เช่าอพาร์ทเมนท์ส่วนตัวและที่อพาร์ทเมนท์ไม่มีอินเตอร์เน็ด ไวไฟพกพา (Pocket Wifi) ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ โดยที่คุณสามารถเลือกใช้บริการตามเครือข่ายที่คุณสนใจได้ แต่คุณจะไม่สามารถโทรออกหรือรับสายปกติได้

เป็นอย่างไรบ้างคะ ข้อมูลที่ได้พอที่จะใช้ตัดสินใจว่าจะใช้รูปแบบไหนสะดวกและเหมาะสมกับคุณที่สุดในการใช้ชีวิตในญี่ปุ่นหรือเปล่า ที่สำคัญที่สุด ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลในขณะที่เขียนบทความ อย่าลืมตรวจสอบข้อมูลอัปเดทอีกครั้งจากเว็บไซต์ผู้ให้บริการในตอนที่จะเลือกใช้บริการนะคะ