【ญี่ปุ่น】บัตรรถไฟประเภทต่างๆในญี่ปุ่น

ผู้ที่ชื่นชอบในการท่องเที่ยว ศึกษาวัฒนธรรมของญี่ปุ่น เมื่อมาญี่ปุ่นไม่ว่าจะมาในฐานะนักท่องเที่ยวหรือมาพักอาศัยระยะยาวก็คงเห็นได้ว่า ประเทศญี่ปุ่นมีระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวกและมีให้บริการมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า, รถไฟใต้ดิน, รถบัส, รถไฟโมโนเรล เป็นต้น ผู้ประกอบการที่ให้บริการก็มีหลายบริษัท การกำหนดราคาก็จะแตกต่างกันออกไป ทำให้ผู้มาเยือนญี่ปุ่นไม่เข้าใจและพบปัญหาในการใช้บริการเช่น จะซื้อตั๋วแต่หาสถานที่ไม่เจอ ไม่ทราบราคา เราจะมาแนะนำการใช้ IC Card หรือบัตรรถไฟเพื่อแก้ปัญหานั้นกัน

IC Card คืออะไร 

ประเภท IC Card ในญี่ปุ่น

การสมัครบัตรและเติมเงิน

การใช้งานบัตร IC Card 

IC Card คืออะไร

IC Card หรือที่เรารู้จักกันว่าบัตรรถไฟแบบเติมเงิน เป็นบัตรเติมเงินที่ใช้เทคโนโลยีระบุลักษณะของวัตถุด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (RFID) ทำให้ใช้งานได้ง่าย สามารถใช้จ่ายค่าโดยสารในระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวกสบาย แถมยังสามารถชำระเงินที่ตู้จำหน่ายอัตโนมัติ ร้านค้าและร้านอาหารหลายแห่งเพียงแค่แตะบัตรบนเครื่องอ่าน ข้อดีอย่างหนึ่งของการใช้ IC Card คือคุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการซื้อตั๋วรถไฟหรือรถบัส ที่ดำเนินการโดยบริษัทอื่น คุณสามารถใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาไปหาสายรถ หาราคา กดหาเป้าหมายในตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ ช่วยประหยัดเวลาไปได้เยอะเลยทีเดียว

ประเภท IC Card ในญี่ปุ่น

IC Card หรือบัตรรถไฟแบบเติมเงินในญี่ปุ่นจะมีลักษณะเฉพาะและมีชื่อเรียกที่แตกต่างไปในแต่ละภูมิภาค เช่นโตเกียวมีบัตร IC Card ที่แตกต่างจากโอซาก้า แต่คุณสามารถใช้ IC Card ที่คุณมีอยู่ได้ทุกที่ทั่วประเทศ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้บัตร Pasmo ซึ่งเป็นบัตรรถไฟใต้ดินของโตเกียวเพื่อเดินทางโดยรถไฟในโอซาก้าได้. วันนี้เราได้รวบรวมรายละเอียดของ IC Card จากทั่วประเทศมาให้ดังต่อไปนี้

1.Suica เป็นบัตร IC แบบเติมเงินของ JR East สำหรับรถไฟ JR ในเขต Tokyo, Niigata และ Sendai รุ่นพิเศษของ Suica เรียกว่า Welcome Suica มีให้สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบัตรพิเศษมีอายุการใช้งานเพียงสี่สัปดาห์เท่านั้นและไม่มีค่ามัดจำ

2.Pasmo เป็นบัตร IC แบบเติมเงินของผู้ให้บริการรถไฟรถไฟใต้ดินและรถประจำทางของโตเกียวนอกเหนือจาก JR บัตร Pasmo รุ่นพิเศษที่เรียกว่า Pasmo Passport มีให้สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบัตรพิเศษมีอายุการใช้งานเพียงสี่สัปดาห์และไม่มีค่ามัดจำเช่นกัน

3.Icoca เป็นบัตร IC แบบเติมเงินของ JR West สำหรับรถไฟ JR ในคันไซ (รวมถึงโอซาก้าและเกียวโต) ภูมิภาคชูโกกุและโฮคุริคุ โดยมี Kansai One Pass เป็นรุ่นพิเศษของ Icoca สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยเฉพาะ โดยมีคุณสมบัติเพิ่มเติมเพื่อรับส่วนลดในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในภูมิภาคคันไซ

4.Pitapa เป็นบัตร IC ของผู้ให้บริการรถไฟและรถไฟใต้ดินของภูมิภาคคันไซนอกเหนือจาก JR ซึ่ง Pitapa เป็นบัตรแบบpostpaidและไม่สามารถใช้ได้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

5.Toica เป็นบัตร IC แบบเติมเงินโดย JR Central สำหรับรถไฟ JR ในเขต Nagoya และบางส่วนของจังหวัด Shizuoka

6.Manaca เป็นบัตร IC แบบเติมเงินของผู้ให้บริการรถไฟรถไฟใต้ดินและรถประจำทางของNagoya นอกเหนือจาก JR 

7.Kitaca เป็นบัตร IC แบบเติมเงินของ JR Hokkaido สำหรับรถไฟ JR ในภูมิภาค Sapporo นอกจากนี้ยังสามารถใช้กับรถไฟใต้ดินรถประจำทางและรถรางของซัปโปโร

8.Sugoca เป็นบัตร IC แบบเติมเงินของ JR Kyushu สำหรับรถไฟ JR ในเขต Fukuoka, Kumamoto, Kagoshima, Oita และ Nagasaki

9.Nimoca เป็นบัตร IC แบบเติมเงินของ Nishitetsu สำหรับรถไฟและรถประจำทางของ Nishitetsu ใน Fukuoka และการขนส่งของ Nishitetsuในเมืองอื่น ๆ บนเกาะคิวชูและในฮาโกดาเตะ

10.Hayakaken เป็นบัตร IC แบบเติมเงินของเมืองฟุกุโอกะสำหรับรถไฟใต้ดินฟุกุโอกะ

การสมัครบัตรและเติมเงิน

IC Card หรือบัตรรถไฟแบบเติมเงิน มีจำหน่ายที่เครื่องจำหน่ายตั๋วและเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วที่สถานีรถไฟ ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นประกอบด้วยเงินมัดจำ 500 เยน ซึ่งจะหักจากจำนวนเงินที่เราใส่ไปในตอนแรก เช่น เราใส่เงินไป 2000 เยน หักเงินมัดจำ 500 เยน เหลือที่ใช้ได้จริงในบัตร 1500 เยน คุณสามารถขอคืนเงินมัดจำ 500 เยนคืนได้โดยนำบัตรของคุณไปที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วของบริษัทที่ออกบัตรให้เท่านั้น(เช่น Suica ต้องขอคืนที่โตเกียว ไม่สามารถขอคืนที่โอซาก้าได้) เงินคงค้างในบัตรที่ไม่ได้ใช้ก็สามารถขอคืนได้ โดยส่วนใหญ่จะหักค่าธรรมเนียมการจัดการ 220 เยนออกจากยอดเงินคงเหลือ อายุบัตรมีอายุ10ปี หลังจากใช้บริการครั้งสุดท้าย ดังนั้นถ้าคุณคิดว่าจะมาอีกภายใน10ปีก็ไม่จำเป็นต้องทำเรื่องคืนให้วุ่นวาย หากในบัตรมีเงินไม่เพียงพอสัญญาณเตือนจะดังขึ้นและประตูจะไม่เปิด คุณสามารถเติมเงินโดยอัตโนมัติได้ที่เครื่องปรับค่าโดยสารเพียงแค่ใส่บัตรเข้าไป เลือกจำนวนเงิน การเติมเงินก็จะเป็นไปโดยอัตโนมัติ หากคุณทำงานที่ญี่ปุ่นและต้องการซื้อบัตรโดยสารรายเดือน คุณสามารถเลือกบริการ 定期券(Commuter Passes) และเลือกสถานีที่คุณต้องการ โดยที่คุณ สามารถเลือกระยะเวลาได้ 1,3,6 เดือน โดยถ้ายิ่งเลือกระยะเวลายาวขึ้นก็จะมีส่วนลดเพิ่มขึ้น ถือว่าคุ้มค่าสำหรับคนที่อยู่ระยะยาว โดยคุณสามารถชำระเงินด้วยบัตรเครดิตได้

การใช้งานบัตร IC Card

นอกเหนือจากความสามารถในการใช้กับระบบขนส่งสาธารณะแล้ว IC Card หรือบัตรรถไฟแบบเติมเงินยังสามารถใช้เพื่อซื้อสินค้าจากร้านค้าที่เข้าร่วม ซื้ออาหารเครื่องดื่มและสินค้าอื่น ๆ ในร้านสะดวกซื้อ ใช้เพื่อชำระค่าตู้เก็บของ ซื้อสินค้าที่ตู้อัตโนมัติ จ่ายค่าลานจอดรถและแม้แต่ซื้อของในวิดีโอเกมของ Nintendo เพียงแค่คุณมองหาโลโก้ IC เพื่อดูว่าคุณสามารถใช้บัตรของคุณได้หรือไม่ โดยคุณอาจจะได้รับส่วนลดเล็กน้อยสำหรับค่าโดยสารรถไฟในโตเกียวและเมืองอื่น ๆ หรือส่วนลดจากร้านค้าที่จัดโปรโมชั่นของ IC Card อีกหนึ่งข้อดีของการใช้ IC Card ก็คือ คุณไม่ต้องพกเงินเหรียญเวลาซื้อสินค้า ไม่ต้องรับเงินทอนที่เป็นเหรียญอีกด้วย 

ตอนนี้คงทราบแล้วว่า IC Card หรือบัตรรถไฟนั้น ไม่เพียงแต่ใช้กับระบบขนส่งสาธารณะเท่านั้น ยังใช้อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันในการชำระเงินในร้านค้า ร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้อได้อีกด้วย บัตรโดยสาร IC Card ญี่ปุ่นมีมากกว่า 10 แบบ ในบางครั้งจะมีรุ่นลิมิเต็ดออกมาให้นักสะสมได้เก็บสะสมเป็นที่ระลึกอีกด้วย

นักเขียน

WeXpats
นำเสนอบทความที่หลากหลาย ตั้งแต่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการใช้ชีวิต การทำงาน และการศึกษาต่อในประเทศญี่ปุ่น รวมไปจนถึงบทความแนะนำเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น

บทความพิเศษ 特集

บทความยอดนิยม 人気記事

โซเชียลมีเดีย ソーシャルメディア

นำเสนอข้อมูลล่าสุดในญี่ปุ่นใน 9 ภาษา!

  • English
  • 한국어
  • Tiếng Việt
  • မြန်မာဘာသာစကား
  • Bahasa Indonesia
  • 中文 (繁體)
  • Español
  • Português
  • ภาษาไทย
TOP/ การอาศัยในญี่ปุ่น/ การเดินทาง/ 【ญี่ปุ่น】บัตรรถไฟประเภทต่างๆในญี่ปุ่น

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงการเข้าถึงและคุณภาพของเว็บไซต์ของเรา โปรดคลิก "ยอมรับ" เพื่อยอมรับการใช้คุกกี้ของเรา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้คุกกี้ของเราโปรดคลิกที่นี่

นโยบายการใช้คุกกี้