เกบิเคที่อยู่ในจังหวัดอิวาเตะ ภูมิภาคโทโฮคุ หรือตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น เป็นหุบเขาโขดหินขนาดใหญ่มี ประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี ในญี่ปุ่นมีการล่องเรือที่ใช้เรือถ่อด้วยไม้พายเพียงอันเดียวทั้งขาไปและกลับโดยไม่มีการใช้เครื่องยนต์ซึ่งในญี่ปุ่นมีอยู่สามแห่งด้วยกัน และเกบิเคคือหนึ่งในนั้น ผู้มาเที่ยวจะสัมผัสได้ถึงความงดงามของฤดูกาลทั้งสี่ของญี่ปุ่น ฤดูใบไม้ผลิ, ฤดูร้อน, ฤดูใบไม้ร่วง และ ฤดูหนาว ที่มีความสวยงามแตกต่างกันไป
■ ความเป็นมา
เกบิเค คือหนึ่งในสถานที่ที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น บริเวณแม่น้ำขนาบข้างด้วยผาสูงกว่า 100 เมตร เป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ก่อตัวขึ้นจากแม่น้ำซาเท็ตสึที่กัดเซาะชั้นหินปูนจนทำให้เกิดเป็นส่วนนูนต่ำ เห็นเป็นรูปคล้ายจมูกสิงโต จึงได้ชื่อว่าหุบเขาเกบิ (หุบเขาจมูกสิงโต) ช่องเขาลึกล้ำที่สวยงามที่ได้รับการยกย่องให้เป็นสถานที่ที่มีทิวทัศน์แห่งความงามตามธรรมชาติอีกด้วย เกบิเคเป็นที่เลื่องชื่อเกี่ยวกับชาวประมงทั้งชายและหญิงที่สามารถล่องเรือไปตามลำน้ำได้ด้วยไม้ค้ำเพียงท่อนเดียว พร้อมขับกล่อมเพลงพื้นบ้านชื่อ เกบิโออิวาเคะ (Geibi-oiwake) การโดยสารเรือไปกลับใช้เวลาประมาณ 90 นาที
บทความแนะนำ
■ ฤดูใบไม้ผลิ
ช่วงฤดูใบไม้ผลิอากาศเย็นสบายเหมาะกับการล่องเรือชมดอกไม้ “ซากุระ”ของเกบิเค จะบานราวปลายเดือนเมษายน ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการชมซากุระคือ ช่วงปลายเมษายน ถึง ต้นพฤษภาคม ส่วน “ดอกฟูจิ” จะบานช่วงกลางเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป โดยจะบานสะพรั่งอยู่ตามโขดหินคอยต้อนรับผู้มาเยือน
■ ฤดูร้อน
เกบิเคในฤดูร้อน ผู้มาเที่ยวจะได้ล่องเรือชม สีเขียวขจีของต้นไม้กับโขดหินผาและน้ำใส สะอาดมองเห็นปลาในแม่น้ำกำลังแหวกว่าย มีเป็ดว่ายตามเรือ คุณสามารถซื้ออาหารเม็ดให้กับปลาและเป็ดได้ที่ร้านค้าด้านบนก่อนลงเรือ ในราคาร้อยเยนเท่านั้น อากาศค่อนข้างร้อนแนะนำให้ใส่หมวกพกร่มไปด้วยนะ
■ ฤดูใบไม้ร่วง
ในฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้ของต้นไม้ทั่วทั้งหุบเขาเกบิเคจะเปลี่ยนสีเป็นแดง เหลือง ส้ม เป็นทัศนียภาพสวนงามตระการตา งดงามชวนให้ตื่นตะลึง ช่วงเวลาที่เหมาะสมใน การชมใบไม้เปลี่ยนสี คือ กลางตุลาคม ถึง ต้น พฤศจิกายน
■ ฤดูหนาว
ในช่วงฤดูหนาวเดือนที่หิมะตกจะมีบริการล่องเรือที่เรียกว่า โคทัตสึ (โต๊ะที่ให้ความอบอุ่น) จึงเหมาะอย่างยิ่งหากต้องการสัมผัสอากาศหนาวเย็น และยังมีโอกาสได้ลิ้มรสหม้อไฟคินากาชินาเบะเสิร์ฟร้อนๆ บนเรือ โลกสีขาวโพลนที่มองเห็นได้จากเรือในโคทัตสึอันอบอุ่นนั้นเหมือนกับภาพวาด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคุณจะต้องประทับใจกับทิวทัศน์ที่ปกติแล้วคุณไม่ได้สัมผัสอย่างแน่นอน
■ ขว้างหินเสี่ยงทาย
เรือจะไปจอดตรงที่ลองเสี่ยงทายหินหน้าผาใหญ่ หรือ โขดหินใหญ่โอเกบิอิวะ ที่จุดเลี้ยวกลับของการล่องเรือกัน เชื่อกันว่าถ้าขว้างหินเสี่ยงทายเข้าไปในช่องอธิษฐานซึ่งอยู่ตรงกลางโขดหินนั้นได้ คำอธิษฐานจะเป็นจริง หินเสี่ยงทายมี 10 ชนิด จะสลักอักษรคันจิที่มีความหมายว่าถึง โชค ลาภ สายสัมพันธ์ ความปรารถนา ความรัก ความใคร่ ลิขิต อายุยืนยาว ทรัพย์สมบัติ และ เงินทอง มีคำแปลภาษาไทยอยู่ตรงนั้น แต่ว่าเราต้องค้นหาหินเองนะ เสร็จแล้วนำไปจ่ายเงิน โดยจะจำหน่าย 5 ก้อนในราคา 100 เยน เราจะเสี่ยงทาย เรื่องอะไรกันดี และเมื่อโยนลงในช่องแล้ว ให้ไปรับการ์ดใบเล็กๆ ที่แสดงว่าเราได้โยนหินลงในช่องอธิษฐานแล้วจากผู้ดูแลตรงนั้น ต้องโยนลงจริงๆ ถ้าโยนไม่ลงไปเนียนๆขอเค้าไม่ให้นะจ๊ะ
■ เพลงพื้นบ้านขับกล่อม
เพลงเรือที่ขับกล่อมระหว่างทางเรียกว่าเพลง เกบิโออิวาเคะ (Geibi-oiwake) เป็นเพลงพื้นบ้านโบราณประเภทหนึ่งของญี่ปุ่นและเป็นเพลงที่มีชื่อเสียงของเกบิเคที่นายเรือขับร้องช่วงท้ายของการล่องเรือ นายเรือ จะใช้ไม้พายถ่อเรือไปพลางร้องเพลงด้วยเสียง ทรงพลัง เสียงเพลง เกบิโออิวาเคะ ที่ดังก้องกังวานไปทั่วหุบเขา ในบรรยากาศที่งดงามราวกับได้ย้อนอดีตไปยังญี่ปุ่นสมัยก่อน
■ การเดินทาง
เดินทางเข้าถึงเกบิเคได้สะดวกด้วยรถไฟความเร็วสูง Shinkansen จากโตเกียว ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. แต่ถ้าเดินทางมาจากสนามบินนานาชาติเซนไดโดยใช้บริการรถไฟ Shinkansen จะใช้เวลาเพียง 1 ชม. เดินทางโดยรถยนต์หรือรถบัสได้โดยสามารถดูรายละเอียดจากเว็บไซต์ภาษาไทย หรือจากกูเกิ้ลแมพ
■ ค่าเข้าชม
ค่าธรรมเนียม |
15 คน ขึ้นไป |
100คน ขึ้นไป |
|
ผู้ใหญ่ |
1,800 เยน |
1,620 เยน |
1,440 เยน |
เด็กประถม |
900 เยน |
810 เยน |
720 เยน |
เด็กเล็ก |
200 เยน |
200 เยน |
200 เยน |
* ส่วนลดแบบกลุ่มใช้สำหรับกลุ่มผู้ใหญ่ กลุ่มเด็กประถม ไม่สามารถนำมารวมคละกันได้
* เด็กเล็กต้องมีอายุ 3 ปีขึ้นไป
ไม่ว่าจะล่องเรือเกบิเคในฤดูกาลไหน ทั้ง ฤดูใบไม้ผลิ, ฤดูร้อน, ฤดูใบไม้ร่วง หรือฤดูหนาว ต่างก็มีความสวยงามและน่าสนใจเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ผู้เขียนมีโอกาสได้ไปสัมผัสแค่ฤดูร้อนแต่ก็ประทับใจมากจนอยากจะกลับไปอีกให้ครบทุกฤดูเลยค่ะ