สถานที่จริงจากแอนิเมชั่น 5 เรื่องของ Ghibli มาเดินเข้าไปในโลกแห่งความฝันด้วยกัน!

แฟนอนิเมะญี่ปุ่นทุกคนคงรู้จักผลงานของสตูดิโอ Ghibli ซึ่งสามารถกล่าวได้ว่าเป็นตัวแทนของแอนิเมชั่นญี่ปุ่น แม้ว่าคุณจะไม่เคยดูแต่คุณก็มักจะได้ยินชื่อผลงานของพวกเขาเช่น "My Neighbor Totoro", "Spirited Away" เป็นต้น รูปแบบแอนิเมชั่นของ Ghibli นั้นงดงามมากเนื้อหาของเรื่องเต็มไปด้วยความแฟนตาซีและข้อมูลสำคัญบางอย่างถูกซ่อนไว้ในเวลาเดียวกันเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับผู้ใหญ่และเด็กที่จะชื่นชมมันจากมุมที่แตกต่างกัน เมื่อชื่นชมผลงาน Ghibli คุณอาจต้องการดื่มด่ำกับโลกแห่งแอนิเมชั่นจริงๆแล้วมีสถานที่บางแห่งในญี่ปุ่นที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับฉากแอนิเมชั่นนี่คือสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น 6 แห่งที่คุณอาจอยากไป!

■มิติวิญญาณมหัศจรรย์ (Spirited Away)

เครดิตรูป:http://www.ghibli.jp/works/chihiro/#frame

ใน "Spirited Away" ชิฮิโระ โองิโนะ (Chihiro Ogino) เด็กหญิงวัยสิบปี ย้ายบ้านไปกับพ่อแม่อย่างเสียมิได้ ขณะขับรถยนต์ไปเมืองใหม่ พวกเขาหลงทาง และพบสวนสนุกร้าง พ่อของชิฮิโระออกสำรวจทั่วบริเวณ ขณะที่แม่และจิฮิโระติดตามไปอย่างตะขิดตะขวงใจ ใจกลางสวนสนุกนั้น พวกเขาพบแผงลอยอาหารกำลังสุกส่งกลิ่นชวนรับประทาน ปราศจากทั้งคนขายและลูกค้า พ่อแม่จิฮิโระจึงนั่งลงรับประทานอาหารนั้น ปรากฏว่าพ่อแม่ของเธอรับประทานอาหารของภูตเข้า จึงกลายร่างเป็นสุกร เพื่อให้มีชีวิตรอดเธอจึงต้องทำงานในโรงอาบน้ำ และเพื่อหาทางกลับโลก. "โรงอาบน้ำ" แบบโบราณได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามในความเป็นจริง

Shima Onsen Sekizenkan เป็นออนเซ็นก่าแก่อายุกว่า 300 ปี ในเมืองกุนมะ ที่เป็นหนี่งในต้นแบบโรงอาบน้ำในภาพยนตร์อนิเมะเรื่อง Spirited Away จุดเด่นของที่นี่คือสถาปัตยกรรมส่วนหนึ่งที่สร้างขึ้นเป็นหนึ่งในแหล่งที่มาของแรงบันดาลใจอย่างเป็นทางการสำหรับโรงอาบน้ำในภาพยนตร์อนิเมะเรื่อง Spirited Away นี่เป็นหนึ่งในบ่อน้ำพุร้อนชื่อดังของญี่ปุ่น และยังคงเปิดใช้งานเป็นทั้งเรียวกังและโรงอาบน้ำดังนั้นคุณสามารถอาบน้ำที่นี่ได้ หากคุณต้องการสัมผัสโรงอาบน้ำเหมือนในภาพยนตร์อนิเมะเรื่อง Spirited Away คุณสามารถมาที่นี่ เพื่อสัมผัสประสบการณ์นี้ได้

เครดิตรูป:http://www.ghibli.jp/works/chihiro/#frame

ฉากสำคัญอีกฉากใน "Spirited Away" คือ Chihiro และภูตไร้หน้านั่งรถไฟไปถึงบ้านของเซนีบาเพื่อพื่อขอให้เซนีบาถอนคำสาปให้ฮากุ ฉากรถไฟก็เหมือนเดินอยู่บนทะเลซึ่งดูชวนฝันมาก

ในจังหวัดเอฮิเมะยังมีสถานีชื่อสถานี 下灘駅 Shimonada ซึ่งเป็นสถานีที่อยู่ใกล้ทะเลและมองเห็นวิวทะเลได้สวยที่สุดสถานีนึงในญี่ปุ่น นี่คือสถานีที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ (無人駅) สถานีเล็ก ๆ อยู่ติดทะเล ซึ่งเมื่อดูผ่านๆ จะดูเหมือนว่ารถไฟจะลอยอยู่ในทะเล เวลานั่งบนม้านั่งและถ่ายรูปองค์ประกอบก็สวยมาก

■โปเนียว ธิดาสมุทรผจญภัย (Gake no Ue no Ponyo)

เครดิตรูป:http://www.ghibli.jp/works/ponyo/#frame

บอกเล่าเรื่องราวของปลาทองตัวน้อยในทะเลที่แอบหนีออกจากบ้านของเธอและขี่แมงกะพรุนไปยังโลกภายนอก แต่บังเอิญไปติดอยู่ในโถแก้ว โชคดีที่ได้รับการช่วยเหลือจากเด็กชายที่ชื่อโซสุเกะ ที่ช่วยชีวิตและเลี้ยงเธอไว้ในถังน้ำพลาสติกสีเขียว เขาตั้งชื่อเธอว่า 'โปเนียว' โปเนียวชอบโซสุเกะ โซสุเกะก็รู้สึกกับโปเนียวไม่ต่างกัน โปเนียวที่ชอบโซสึเกะเริ่มอยากจะเป็นมนุษย์ ฟุจิโมะโตะพ่อของโปเนียว ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นมนุษย์ แต่ตอนนี้กลายเป็นเจ้าสมุทรมีชีวิตอยู่ใต้ทะเลลึก ก็บังคับลูกสาวตัวน้อยๆ ให้กลับสู่ท้องทะเล “หนูอยากเป็นมนุษย์ค่ะ!” เธอบอกกับพ่อ ก่อนจะหนีออกมา กลายร่างเป็นเด็กสาว และกลับมาหาโซสุเกะ แต่ระหว่างทาง เธอทำน้ำแห่งชีวิตซึ่งเป็นของเหลวศักดิ์สิทธิ์ของพ่อหลุดรั่วไปในท้องทะเลจนหมดขวด เป็นเหตุให้น้ำทะเลยกตัวขึ้นสูงเกิดสึนามิ น้ำทะเลล้นเข้าท่วมจนเมืองเล็กๆ จมอยู่ใต้น้ำ

แอนิเมชั่นทั้งหมดตั้งอยู่ในท่าเรือเล็ก ๆ และให้ความรู้สึกคล้ายกับ เมืองโทโมะโนะอุระ (Tomonura) ในจังหวัดฮิโรชิมา (Hiroshima) ว่ากันว่าตอนที่ Hayao Miyazaki เขียนเรื่องโปเนียว ธิดาสมุทรผจญภัย เขานึกถึงช่วงเวลาที่อยู่ในเมืองโทโมะโนะอุระ (Tomonura) ดังนั้นเขาจึงใช้ภาพจากสถานที่นี้เป็นฉากหลักในเรื่อง

■ป๊อปปี้ ฮิลล์ ร่ำร้องขอปาฏิหาริย์ (From Up on Poppy Hill)

เครดิตรูป:http://www.ghibli.jp/works/kokurikozaka/#frame

ในช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นเร่งพัฒนาโตเกียวเพื่อรับมหกรรมโอลิมปิกฤดูร้อน 1964 "มัตสึซากิ อุมิ" เด็กสาววัย 16 ปี ผู้สูญเสียบิดาไปในสงครามเกาหลี อาศัยอยู่ในบ้านโคะกุริโกะ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองท่าโยะโกะฮะมะ ในตอนแรกเธอไม่เห็นด้วยกับ คาซามะ ชุน และ มิซูนูมะ ชิโร ที่ทำให้เกิดความวุ่นวายในโรงเรียน แต่เมื่อพวกเขาเริ่มได้ทำงานด้วยกัน เริ่มสนิทกัน ก็เริ่มมีความประทับใจที่ดีต่อกัน อย่างไรก็ตามคาซามะพบว่าเค้ากับอุมิทั้งสองอาจมีความสัมพันธ์ทางสายเลือด

ทุกเช้าอุมิจะชักธงสัญญาณแบบเดียวกันขึ้นที่บ้านของเธอขึ้นเพื่อระลึกถึงบิดาผู้จากไปในสงครามเกาหลี “Minatonomieruoka kōen” (Harbor view park) ของโยโกฮาม่าก็มีธงสัญญาณเดียวกัน และสภาพแวดล้อมของสวนสาธารณะก็เช่นกัน และยังมีสถานที่อื่น ๆ ในโยโกฮาม่าที่คล้ายกับในฉากแอนิเมชั่นเรื่องนี้และสถานที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโตเกียวดังนั้นคุณสามารถเดินเล่นที่นี่เพื่อระลึกถึงฉากในแอนิเมชั่นเรื่องนี้ได้

■อาริเอตี้ มหัศจรรย์ความลับคนตัวจิ๋ว (The Secret World of Arrietty)

เครดิตรูป:http://www.ghibli.jp/works/karigurashi/#frame
อาริเอตี้ เด็กสาวซึ่งเป็น "พวกหยิบยืม" (Borrower) หรือคนตัวจิ๋วสูงสิบเซนติเมตร อาศัยใต้พื้นเรือนมนุษย์พร้อมครอบครัว เผ่าพันธุ์ของเธอจะยืมสิ่งของเพื่อเอาชีวิตรอดนั่นคือขโมยสิ่งของที่จำเป็นในชีวิตประจำวันของมนุษย์โดยไม่ได้รับความสนใจจากมนุษย์ วันหนึ่งเด็กชายวัยสิบสี่ชื่อ โชที่ต้องพักฟื้นในกระท่อมในชนบทเนื่องจากเตรียมตัวผ่าตัดอันเนื่องมาจากโรคหัวใจที่เป็นมาแต่กำเนิด ได้ค้นพบการมีอยู่ของ อาริเอตี้ เป็นครั้งคราวในตอนแรก อาริเอตี้ รู้สึกกลัวมาก แต่หลังจากทั้งสองได้สัมผัสกันพวกเขาก็ค่อยๆช่วยเหลือกันและพัฒนามิตรภาพ 

เครดิตรูป:http://www.seibien.jp/

กระท่อมที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้เขียวขจีให้ความรู้สึกเหมือนสวนลับในสวน 盛美園 (Seibien) ที่อาโอโมริแม้ว่าจะเป็นสวนญี่ปุ่น แต่ก็มีศาลาที่ผสมผสานสไตล์ญี่ปุ่นและตะวันตกอยู่ในสวน ชั้นแรกเป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่น ส่วนชั้นสองออกแบบพิเศษเป็นสวนสไตล์ตะวันตก ด้วยความเขียวขจีโดยรอบจึงดูคล้ายกับฉากในแอนิเมชั่นเรื่องนี้

■ฝันของฉันต้องมีเธอ (When Marnie Was There)

เครดิตรูป:http://www.ghibli.jp/works/marnie/#frame
เป็นเรื่องราวของเด็กสาวอายุ 12 ปีในซัปโปะโระ ที่ชื่อ อันนะ ซาซากิ เธอสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้เธอกลายเป็นเด็กกำพร้าและไปอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็ก สตรีนามโยริโกะและสามีได้รับเลี้ยงเธอในฐานะลูกบุญธรรม อันนะเป็นเด็กเก็บตัว ไม่พูดจากับใคร และนั้นเองทำให้ทั้งสองเป็นห่วงอันนะอย่างมาก จนวันหนึ่ง ขณะที่อันนะอยู่ที่โรงเรียน โรคหืดของเธอกำเริบทำให้เธอต้องเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล โยริโกะจึงมีความคิดให้อันนะไปอาศัยอยู่ในชนบทแถบเมืองคุชิโระและเนะมุโระ ซึ่งอากาศดีเป็นเวลาซักพักเพื่อที่จะให้อาการของเธอดีขึ้นในช่วงหยุดฤดูร้อน อันนะจึงได้ไปอาศัยกับสองสามีภรรยาโออิวะ ซึ่งเป็นญาติของโยริโกะ หมู่บ้านที่เธอย้ายเข้าไปอยู่ใหม่นั้นเป็นหมู่บ้านติดทะเล ซึ่งเธอพบว่าริมชายฝั่งของอีกฟาก มีคฤหาสน์ร้างสถาปัตยกรรมตะวันตกหลังหนึ่งตั้งอยู่ ด้วยความรู้สึกคุ้นเคยเธอจึงเข้าไปสำรวจ เมื่อเธอกลับมาถึงบ้านเธอจึงถามเกี่ยวกับคฤหาสน์หลังนั้นและได้รับคำตอบว่าเมื่อนานมาแล้วมันเป็นคฤหาสน์ที่เจ้าของชาวต่างประเทศจะมาอาศัยอยู่เป็นพักๆ และตั้งแต่คืนนั้น เธอก็ฝันถึงคฤหาสน์หลังนั้นมาตลอด ซึ่งในฝันเธอเห็นเด็กสาวชาวต่างประเทศผมสีทองอยู่ในคฤหาสน์หลังนั้นด้วยได้พบกับหญิงสาวลึกลับชื่อ มาร์นี และทั้งสองก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกัน จู่ๆมาร์นีก็หายตัวไปต่อหน้าต่อตาแอนนา

แม้ว่าเรื่องราวจะไม่ได้บอกตำแหน่งชัดเจนว่าอันนะพักอาศัยอยู่ที่ใด แต่ฉากนึงในเรื่องมาจาก Kushiroshitsugen kokuritsu kōen และพื้นที่สีเขียวอันกว้างใหญ่ทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจและได้รับการเยียวยา ทิวทัศน์พระอาทิตย์ตกที่นี่ถือเป็นหนึ่งในสามทิวทัศน์พระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นและคุ้มค่าแก่การมาเที่ยวชมมาก!

ทิวทัศน์ของแต่ละสถานที่จริงสวยงามมากไม่แพ้โลกกับในของแอนิเมชั่น ในฐานะแฟนของ Ghibli อย่าพลาดไปที่จะไปเยือนสถานที่เหล่านี้ เพื่อเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกของการเป็นตัวเอกและหวนระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในฉากต่างๆของแอนิเมชั่นที่คุณชื่นชอบ!

 

นักเขียน

WeXpats
นำเสนอบทความที่หลากหลาย ตั้งแต่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการใช้ชีวิต การทำงาน และการศึกษาต่อในประเทศญี่ปุ่น รวมไปจนถึงบทความแนะนำเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น

บทความที่เกี่ยวข้อง 関連記事

บทความพิเศษ 特集

บทความยอดนิยม 人気記事

โซเชียลมีเดีย ソーシャルメディア

นำเสนอข้อมูลล่าสุดในญี่ปุ่นใน 9 ภาษา!

  • English
  • 한국어
  • Tiếng Việt
  • မြန်မာဘာသာစကား
  • Bahasa Indonesia
  • 中文 (繁體)
  • Español
  • Português
  • ภาษาไทย
TOP/ การท่องเที่ยวในญี่ปุ่น/ จุดหมาย & สิ่งที่ต้องทำ/ สถานที่จริงจากแอนิเมชั่น 5 เรื่องของ Ghibli มาเดินเข้าไปในโลกแห่งความฝันด้วยกัน!

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงการเข้าถึงและคุณภาพของเว็บไซต์ของเรา โปรดคลิก "ยอมรับ" เพื่อยอมรับการใช้คุกกี้ของเรา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้คุกกี้ของเราโปรดคลิกที่นี่

นโยบายการใช้คุกกี้