วันแม่แห่งชาติของญี่ปุ่น

คนญี่ปุ่นก็ให้ความสำคัญกับวันแม่ไม่แพ้ที่เมืองไทย แต่วันแม่แห่งชาติของญี่ปุ่นนั้นจะตรงกับวันอาทิตย์ในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคม และคนญี่ปุ่นมักมอบดอกคาร์เนชั่นให้คุณแม่ ดอกคาร์เนชั่นสื่อถึงความอ่อนหวาน บริสุทธิ์ และอดทน ของแม่ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าวันแม่ของญี่ปุ่นเริ่มต้นมาได้อย่างไร? บทความนี้จะแนะนำความเป็นมาเกี่ยวกับวันแม่แห่งชาติของญี่ปุ่นและภาษาดอกไม้ของดอกคาร์เนชั่นแต่ละสีให้รู้จักกัน

สารบัญ

ความเป็นมา

ต้นกำเนิดวันแม่ในญี่ปุ่น

ที่มาของดอกคาร์เนชั่น

สีดอกคาร์เนชั่นและภาษาดอกไม้

ของขวัญอื่นๆ

■ ความเป็นมา

ความเป็นมาของวันแม่แห่งชาติที่ตรงกับวันอาทิตย์ในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคมนั้นกล่าวกันว่าต้นกำเนิดมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ในเดือนพฤษภาคม ปี 1907 ที่โบสถ์แห่งหนึ่งในฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา ผู้หญิงคนหนึ่งชื่อแอนนา จาร์วิส มอบคาร์เนชั่นสีขาวให้กับผู้เข้าร่วมที่โบสถ์เพราะเธอต้องการไว้ทุกข์กับมารดาที่ล่วงลับไปแล้ว แม่ของแอนนา จาร์วิสเป็นนักเคลื่อนไหวทางสังคมที่ทำงานในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 โดยได้นำกลุ่มเคลื่อนไหวด้านสาธารณสุขที่เรียกว่า "Mother's Day Work Club" ซึ่งได้ดูแลทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากสงครามโดยไม่คำนึงถึงว่าเป็นศัตรูหรือพันธมิตร ในปี 1910 ผู้ว่าการรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของแอนนาได้ประกาศว่า "วันแม่จะเป็นวันอาทิตย์ที่สองของเดือนพฤษภาคม" และต่อจากนั้นในปี 1914 รัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกาได้กำหนดให้วันอาทิตย์ที่สองของเดือนพฤษภาคมเป็น "วันแม่แห่งชาติ" อย่างเป็นทางการ พร้อมกันนี้ ดอกคาร์เนชั่นสีขาวก็จะถูกส่งมอบเป็นสัญลักษณ์วันแม่แห่งชาติอีกด้วย

■ ต้นกำเนิดวันแม่ในญี่ปุ่น

ในญี่ปุ่นเริ่มจากสมาคมสตรีแห่งสหภาพญี่ปุ่นที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1931 (โชวะ 6) ได้กำหนดให้วันที่ 6 มีนาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันประสูติของจักรพรรดินีแห่งโชวะเป็น "วันแม่แห่งชาติ" แต่ว่าก็ไม่ได้เป็นที่รู้จักกันมากนัก ต่อมาในเดือนพฤษภาคมปี 1937 (โชวะ 12) ผู้ผลิตขนมโมรินากะเชิญคุณแม่ 200,000 คนไปที่สวนสนุกในโตเกียวฟรีและจัด "งานวันแม่" ด้วยชื่องานที่ว่า "ขอบคุณนะคุณแม่!" งานนี้ซึ่งคุณแม่และเด็ก ๆ ได้สนุกสนานในสวนสนุก และได้รับการกล่าวถึงอย่างกว้างขวางในสื่อ และวันแม่ก็กลายเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในญี่ปุ่นมากขึ้น จากนั้น หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวัฒนธรรมอเมริกันหลั่งไหลเข้ามาในญี่ปุ่น วันแม่แห่งชาติจึงได้เปลี่ยนมาเป็นวันอาทิตย์ในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคมตามแบบสหรัฐอเมริกาและแพร่หลายไปทั่วญี่ปุ่น สำหรับของขวัญวันแม่ก็นิยมมอบดอกคาร์เนชั่นตามสไตล์แบบอเมริกัน ภาษาดอกไม้ของดอกคาร์เนชั่นคือ "ความรักของผู้หญิง" โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดอกคาร์เนชั่นสีแดงยังหมายถึง "ความรักของแม่" จึงไม่น่าแปลกใจที่ดอกคาร์เนชั่นเป็นดอกไม้ที่ขาดไม่ได้สำหรับวันแม่

■ ที่มาของดอกคาร์เนชั่น

จุดเริ่มต้นของการมอบคาร์เนชั่นให้แม่มาจากการที่ แอนนา จาร์วิส มอบคาร์เนชั่นสีขาวให้กับผู้เข้าร่วมที่โบสถ์เพราะเธอต้องการไว้ทุกข์กับมารดาที่ล่วงลับไปแล้วในเดือนพฤษภาคม ปี 1907 ที่โบสถ์แห่งหนึ่งในฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา และคาร์เนชั่นสีขาวเป็นดอกไม้ที่แม่ของเธอชอบที่สุด ทุกวันนี้ดอกคาร์เนชั่นสีแดงเป็นมาตรฐานในการมอบให้แม่แต่จุดเริ่มต้นจริงๆมาจากดอกคาร์เนชั่นสีขาวนั่นเอง เหตุใดจึงเปลี่ยนจากดอกคาร์เนชั่นสีขาวเป็นสีแดง? ในหมู่ชาวคริสต์ ดอกคาร์เนชั่นสีแดงสดเชื่อว่าเป็นคำมั่นสัญญาแห่งความรักของพระแม่มารีและพระบุตร ความรักของแม่ที่มีให้ต่อลูกนั่นเอง

■ สีดอกคาร์เนชั่นและภาษาดอกไม้

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาสีของดอกคาร์เนชั่นมีหลากหลายขึ้น และมีแนวโน้มที่จะไม่มอบดอกคาร์เนชั่นสีแดงให้แม่ก็แพร่หลายมากขึ้น ตอนนี้จึงอยากจะแนะนำภาษาดอกไม้ของดอกคาร์เนชั่นสีอื่นๆ รวมทั้งดอกคาร์เนชั่นสีแดงให้นำไปเลือกใช้สื่อความหมายแสดงความรู้สึกกับคุณแม่

  • สีแดง หมายถึง "รักของแม่" "เชื่อในรัก" "รักสุดใจ" เป็นภาษาดอกไม้ที่สมบูรณ์แบบสำหรับวันแม่ ดังนั้นสีแดงน่าจะดีที่สุดสำหรับวันแม่และเป็นที่นิยมของคนญี่ปุ่น
  • สีชมพู หมายถึง “ขอบคุณ” “สง่างาม/มีเกียรติ” “อบอุ่นหัวใจ” “งดงาม” และนี่ก็สามารถแสดงความ "ขอบคุณ" ซึ่งเป็นภาษาดอกไม้ที่สมบูรณ์แบบสำหรับวันแม่ สีชมพูเป็นสีของผู้หญิง ดังนั้นคนญี่ปุ่นจึงอยากจะมอบให้กับคุณแม่ที่ชอบสีชมพู
  • ส้ม หมายถึง “รักบริสุทธิ์” “ความหลงไหล” เป็นภาษาดอกไม้ที่น่ารักที่ทำให้คุณรู้สึกรักใคร่ แต่มันอาจจะเหมาะกับคู่รักมากกว่าสำหรับมอบให้แม่
  • สีม่วง หมายถึง "ความภาคภูมิใจ" "ศักดิ์ศรี" สีม่วงที่มีภาพลักษณ์ที่หรูหรา การมอบให้คุณแม่ที่ชอบสีม่วงซึ่งมีภาพลักษณ์ที่สง่างามมากกว่าสีน่ารักอย่างสีแดงและสีชมพู

และสีของดอกคาร์เนชั่นที่ไม่นิยมมอบให้แม่คือ สีขาว ถึงแม้จะแสดงถึง "เคารพ" และ "รักบริสุทธิ์" ดูเหมือนจะดีแต่ความหมายที่แฝงอยู่คือ น้ำตาของแม่หรือบุคคลที่สูญเสียแม่ไปคือดอกคาร์เนชั่นสีขาวเช่นแอนนา และ สีเหลือง หมายถึง “ดูหมิ่น”และ “อิจฉาริษยา” ควรหลีกเลี่ยงเพราะว่าภาษาดอกไม้เป็นแง่ลบ

■ ของขวัญอื่นๆ

ในปัจจุบันคนญี่ปุ่นไม่เพียงแต่จะมอบดอกคาร์เนชั่นให้แม่เท่านั้น บางครั้งดอกคาร์เนชั่นหายากหรือบางทีอยู่ห่างจากครอบครัวจึงนิยมส่งของขวัญเป็นสิ่งของไปให้แทน ตามผลสำรวจที่ว่าคุณแม่ได้รับของขวัญอะไรแล้วจะดีใจปรากฏว่า ผลลัพธ์ได้แก่ อันดับที่ 1 เครื่องสำอางและสกินแคร์ อันดับที่ 2 สินค้าเบ็ดเตล็ดประจำวัน อันดับที่ 3 ของใช้ในครัว อันดับที่ 4 สินค้าที่ใช้อาบน้ำ อันดับที่ 5 กระเป๋าสตางค์ ของขวัญยอดนิยมของคุณแม่วัย 40 และ 50 ปี ได้แก่ อันดับที่ 1 สินค้าเพื่อความผ่อนคลาย อันดับ 2 สินค้าบิวตี้ อันดับที่ 3 เครื่องประดับแฟชั่น ของขวัญยอดนิยมของคุณแม่วัย 60 และ 70 ปี ได้แก่ อันดับที่ 1 เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารญี่ปุ่น อันดับที่ 2 สินค้าเพื่อการนอนหลับ อันดับที่ 3 สินค้าเพื่อสุขภาพ นอกจากนี้พวกอาหาร ขนม ชา กาแฟก็เป็นที่นิยมเช่นกัน

นักเขียน

WeXpats
นำเสนอบทความที่หลากหลาย ตั้งแต่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการใช้ชีวิต การทำงาน และการศึกษาต่อในประเทศญี่ปุ่น รวมไปจนถึงบทความแนะนำเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น

บทความพิเศษ 特集

บทความยอดนิยม 人気記事

โซเชียลมีเดีย ソーシャルメディア

นำเสนอข้อมูลล่าสุดในญี่ปุ่นใน 9 ภาษา!

  • English
  • 한국어
  • Tiếng Việt
  • မြန်မာဘာသာစကား
  • Bahasa Indonesia
  • 中文 (繁體)
  • Español
  • Português
  • ภาษาไทย
TOP/ วัฒนธรรมญี่ปุ่น/ ฤดูกาลและเทศกาล/ วันแม่แห่งชาติของญี่ปุ่น

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงการเข้าถึงและคุณภาพของเว็บไซต์ของเรา โปรดคลิก "ยอมรับ" เพื่อยอมรับการใช้คุกกี้ของเรา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้คุกกี้ของเราโปรดคลิกที่นี่

นโยบายการใช้คุกกี้