หลังจากมาอาศัยที่ญี่ปุ่นสักพัก คุณจะพบว่าประเทศญี่ปุ่นมีวีซ่าหลายประเภท และวีซ่าประเภทต่างๆ ยังกำหนดประเภทงานที่คุณสามารถทำได้ ตลอดจนสวัสดิการหรือข้อจำกัดต่างๆ หลายปีต่อมา บางคนขอสัญชาติญี่ปุ่น (日本国籍取得) บางคนได้รับวีซ่าถาวร (永住権) ดังนั้นความแตกต่างระหว่างวีซ่า 2 ประเภทนี้คืออะไร และมีข้อดีข้อเสียอย่างไร? หาคำตอบได้จากบทความนี้!
สารบัญ
คุณมีปัญหาเกี่ยวกับการหางานในญี่ปุ่นหรือไม่?
วีซ่าถาวร (永住権)
วีซ่าถาวร หรือ “เอจูเคง” (永住権) เป็นสิทธิ์การพำนักในประเทศญี่ปุ่นได้ไม่จำกัดระยะเวลาของชาวต่างชาติโดยไร้ข้อจำกัดในการทำงาน หรือก็คือสามารถทำงานอะไรก็ได้ตราบเท่าที่ถูกต้องตามกฎหมาย คู่สมรสของผู้ที่ถือวีซ่าถาวรก็ไม่มีข้อจำกัดในการทำงานเช่นกัน ผู้ที่ถือวีซ่าถาวรเป็นเจ้าของกิจการได้ และมีสิทธิของพลเมืองเทียบเท่าคนญี่ปุ่นทุกประการ ทั้งนี้วีซ่าถาวรไม่ใช่การได้สัญชาติญี่ปุ่น สัญชาติของผู้ที่ถือวีซ่าถาวรจึงยังคงเดิมถือพาสปอร์ตชาติเดิมของตน
ข้อดี
1. วีซ่าถาวร (永住権) คุณมีสิทธิ์ที่จะอาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นอย่างถาวรและคุณไม่จำเป็นต้องต่ออายุวีซ่าบ่อย ๆ ตราบใดที่คุณไม่ละเมิดกฎหมายและ คุณมีสิทธิ์ที่จะอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นตลอดไป
2. การลดหย่อนค่าเล่าเรียน: คุณยังคงเป็นพลเมืองไทยหลังจากได้รับถิ่นที่อยู่ถาวรแล้ว และคุณยังคงเป็นชาวต่างชาติในประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นคุณหรือบุตรหลานของคุณที่มีวีซ่าพำนักในญี่ปุ่นจึงสามารถใช้นโยบายสิทธิพิเศษต่างๆ สำหรับนักศึกษาต่างชาติในมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่น เช่น การลดค่าเล่าเรียน ใช้เกณฑ์ที่ต่ำกว่าสำหรับการเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ยื่นขอทุนการศึกษาเฉพาะชาวต่างชาติที่มีอยู่มากมาย เป็นต้น
3. เดินทางกลับประเทศไทย: ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น คุณยังคงเป็นพลเมืองไทยหลังจากได้รับถิ่นที่อยู่ถาวรในญี่ปุ่น ดังนั้น คุณสามารถไปมาระหว่างไทยและญี่ปุ่นได้อย่างอิสระ
4. เงินกู้: เงินกู้ธนาคารค่อนข้างง่ายสำหรับชาวต่างชาติที่มีวีซ่าถาวร ตราบใดที่พวกเขามีงานที่มั่นคงและเครดิตดี แต่วงเงินกู้อาจต่ำกว่าของชาวญี่ปุ่นมาก
ข้อเสีย
1. ไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมทางการเมือง: สิทธิ์ในการพำนักถาวรเป็นเพียงสิทธิ์ในการอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นเท่านั้นคุณไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมการเลือกตั้งทางการเมืองและเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าร่วมทางการเมือง
2. ความเป็นไปได้ในการยกเลิกถิ่นที่อยู่ถาวร: หากคุณละเมิดกฎหมายและข้อบังคับ คุณจะเผชิญกับความเสี่ยงในการยกเลิกถิ่นที่อยู่ถาวรและถูกเนรเทศ และหากคุณออกจากประเทศญี่ปุ่นนานกว่า 6 เดือนโดยไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนด วีซ่าถาวรของคุณก็จะถูกยกเลิกเช่นกัน
3. เสรีภาพในการเดินทาง: สิทธิในการอยู่อาศัยถาวรเป็นเพียงสิทธิที่จะอาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น และคุณยังคงเป็นพลเมืองไทย ดังนั้นคุณยังคงต้องยื่นขอวีซ่าเพื่อไปยังประเทศที่ไม่ยกเว้นวีซ่าสำหรับประเทศไทย
บทความแนะนำ
การขอสัญชาติญี่ปุ่น (日本国籍取得)
การขอสัญชาติญี่ปุ่น (日本国籍取得) คือการขอโอนสัญชาติ (帰化申請) จากสัญชาติไทยเป็นสัญชาติญี่ปุ่น โดยจะสามารถใช้ชีวิตในญี่ปุ่นในฐานะคนญี่ปุ่นมีสิทธิทางการเมืองและถือพาสปอร์ตญี่ปุ่น
ข้อดี
1. ความเป็นไปได้ในการเข้าร่วมทางการเมืองในญี่ปุ่น: การลงคะแนนเสียงรวมถึงสิทธิในการลงคะแนนเสียงและการเลือกตั้ง คุณสามารถลงคะแนนเสียงให้กับพรรคการเมืองที่คุณชื่นชอบ หรือเข้าร่วมพรรคการเมืองที่คุณชอบ
2. กู้เงินง่ายกว่า: ธนาคารใหญ่ของญี่ปุ่นเข้มงวดมากในการตรวจสอบสินเชื่อแก่ชาวต่างชาติในญี่ปุ่น ไม่เพียงแต่ขึ้นอยู่กับรายได้เท่านั้น แต่ยังพิจารณาด้วยว่าบริษัทของผู้กู้เป็นบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่หรือไม่ฯลฯ ตราบใดที่คุณมีงานที่มั่นคง มีมาตรการพิเศษต่างๆ เช่น "เงินดาวน์เป็นศูนย์" สำหรับการซื้อบ้านเพื่อให้บริการประชาชนในประเทศ
3. เสรีภาพในการเดินทาง: จากการจัดอันดับพาสปอร์ตทรงอิทธิพลของโลกปี 2023 พาสปอร์ตของญี่ปุ่นไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับ 193 ประเทศทั่วโลก ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับประเทศญี่ปุ่นเหล่านี้ไม่เพียงแต่รวมถึงประเทศพัฒนาแล้วที่สำคัญ เช่น ยุโรปและสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ยังรวมถึง ไทย ฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน ในขณะที่ประเทศไทยสามารถเดินทางได้เพียง 78 จุดหมายปลายทางทั่วโลกโดยไม่ต้องขอวีซ่า ดังนั้นหลังจากเป็นพลเมืองญี่ปุ่นแล้ว คุณสามารถไป "เที่ยวต่างประเทศ" ได้ทันทีที่คุณอยากไป
ข้อเสีย
1. เดินทางกลับประเทศไทย: แม้ว่าไทยจะยกเว้นวีซ่าให้หนังสือเดินทางของญี่ปุ่นเป็นระยะเวลา 15 วันเท่านั้น หากคุณเดินทางกลับประเทศไทยเพียงสองสัปดาห์เพื่อฉลองปีใหม่และเยี่ยมญาติ สองสัปดาห์ อาจเป็นเวลามากพอ แต่หากคุณจำเป็นต้องอยู่ในประเทศไทยเพื่อทำงานหรือด้วยเหตุผลอื่นๆ คุณต้องยื่นขอวีซ่า
2. บัตรประจำตัวประชาชน: เมื่อคุณเป็นพลเมืองญี่ปุ่น คุณต้องสละสัญชาติไทย เช่นเดียวกัน ทะเบียนบ้านของคุณในประเทศไทยจะถูกยกเลิกและบัตรประจำตัวประชาชนของคุณจะใช้ไม่ได้อีกต่อไป หากคุณต้องการใช้บริการบางอย่างในไทยที่ต้องใช้บัตรประจำตัว มันอาจจะยากสักหน่อย และด้วยการดำเนินการเรื่องต่างๆในไทย อาจกล่าวได้ว่าเป็นการยากที่จะข้ามขั้นตอนในการติดต่อประสานงานไทยโดยไม่ต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชน ดังนั้นเพื่อนๆที่ต้องการแปลงสัญชาติต้องระมัดระวัง
3. ค่าเล่าเรียน: หากบุตรหลานของคุณโอนสัญชาติมากับคุณด้วย บุตรหลานของคุณจะไม่สามารถใช้ระบบทุนการศึกษาและนโยบายลดค่าเล่าเรียนสำหรับชาวต่างชาติในมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่นได้อีกต่อไปเมื่อพวกเขาศึกษาในมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่น
การขอวีซ่าถาวรยากกว่าการขอสัญชาติญี่ปุ่น?
การได้รับถิ่นที่อยู่ถาวรในญี่ปุ่นนั้นยากกว่าการแปลงสัญชาติ ในสหรัฐอเมริกา หลังจากได้รับกรีนการ์ดแล้ว คุณต้องรอเป็นเวลาหลายปีก่อนที่คุณจะสามารถยื่นขอสัญชาติอเมริกันได้ อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นนั้นตรงกันข้าม นโยบายการย้ายถิ่นฐานของญี่ปุ่น มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนให้ผู้ที่ตรงตามเงื่อนไขแปลงสัญชาติโดยตรงแทน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะได้รับ วีซ่าถาวร (永住権) มากกว่า การขอสัญชาติญี่ปุ่น (日本国籍取得) ในญี่ปุ่น ตามบทบัญญัติของกระทรวงยุติธรรมญี่ปุ่น การขอเปลี่ยนสัญชาติโดยชาวต่างชาติแบ่งออกเป็น "การเปลี่ยนสัญชาติธรรมดา (普通入籍)" และ "การเปลี่ยนสัญชาติพิเศษ (特别入籍)"
-
"การเปลี่ยนสัญชาติธรรมดา (普通入籍)" จำเป็นต้องพำนักอยู่ในญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลามากกว่า 5 ปี มีอายุมากกว่า 20 ปี ปฏิบัติตามกฎหมายญี่ปุ่น ความประพฤติดี และความสามารถทางการเงินในการดูแลตนเองและสมาชิกในครอบครัว
-
"การเปลี่ยนสัญชาติแบบพิเศษ (特别入籍)" ข้อกำหนดนั้นเหมือนกันโดยทั่วไป ยกเว้นว่าข้อกำหนดสำหรับระยะเวลาการพำนักจะลดลงเหลือเพียง 3 ปี แต่จำเป็นต้องส่งแบบฟอร์มมากกว่า 10 แบบฟอร์มและใบรับรองมากกว่า 5 ฉบับ
อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขในการขอวีซ่าถาวร (永住権) นั้นเข้มงวดกว่า ในประเทศญี่ปุ่น เกณฑ์สำหรับการยื่นขอวีซ่าถาวร (永住権) คือต้องมีระยะเวลาพำนักมากกว่า 10 ปี และมีวีซ่าที่อยู่ต่อเนื่องแบบถูกกฎหมาย นอกจากนี้ช่วงระยะเวลาพำนักต้องมากกว่า 10 ปี จะต้องมีประสบการณ์ทำงานอย่างน้อย 5 ปี นั่นหมายถึงต้องมีใบรับรองการชำระภาษีอย่างน้อย 5 ปี แล้วมีการประเมิน "ความสามารถทางเศรษฐกิจ" หากผู้สมัครทำงานใน บริษัทขนาดเล็กที่มีรายได้จำกัด เขามีแนวโน้มที่จะถูกปฏิเสธ นอกจากนี้คุณต้องถือวีซ่าที่มีระยะเวลามากกว่า 3 ปีเมื่อคุณสมัคร และต้องมีเวลาเหลือมากกว่าครึ่งปีก่อนที่วีซ่าจะหมดอายุ
และสำหรับวีซ่าที่เรียกว่า "ผู้มีความสามารถระดับสูง (高度人材)" ญี่ปุ่นเพิ่งเปิดตัว "ระบบคะแนนสำหรับชาวต่างชาติผู้มีความสามารถพิเศษ" เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2021 เพื่อที่จะคว้าทรัพยากรที่มีคุณภาพสูง เช่น นักวิชาการ ผู้มีความสามารถทางเทคนิคอาวุโส และผู้ประกอบการ มาจากต่างประเทศ ลักษณะเฉพาะคือการกำหนดคะแนนสำหรับเกณฑ์การประเมิน เช่น การศึกษา ประสบการณ์วิชาชีพ และรายได้ เมื่อคะแนนถึง 70 จะได้รับการยอมรับว่าเป็น "ผู้มีความสามารถระดับสูง (高度人材)" และได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ หนึ่งในข้อยกเว้นที่ดีที่สุดคือการลดข้อกำหนดสำหรับการยื่นขอวีซ่าถาวรและลดข้อกำหนดสำหรับจำนวนปีที่พำนักจาก 10 ปีเป็น 5 ปี
สรุป
ทั้งการขอวีซ่าถาวร (永住権) และการขอสัญชาติญี่ปุ่น (日本国籍取得) มีทั้งข้อดีและข้อเสีย คุณต้องพิจารณาให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจ ขอวีซ่าถาวร (永住権) ทำให้คุณสามารถใช้ชีวิตในญี่ปุ่นเกือบเทียบเท่าคนญี่ปุ่นแต่คุณก็ยังถือสิทธิความเป็นคนไทยสามารถทำธุรกรรมต่างๆได้เหมือนเดิน สามารถกลับไปอยู่ไทยหลังเกษียณอายุได้ แต่หากคุณขอสัญชาติญี่ปุ่น (日本国籍取得) คุณจะกลายเป็นคนญี่ปุ่นมีสิทธิมีเสียงถือพาสปอร์ตญี่ปุ่นแต่คุณต้องสละสัญชาติไทยและเสียสิทธิความเป็นคนไทย หลังเกษียณอายุหากจะกลับไปใช้ชีวิตในประเทศไทยคุณต้องมีวีซ่าหรือหากจะขอสัญชาติไทยคืนสามารถทำได้เช่นกันแต่จะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากมาก ดังนั้นต้องตัดสินใจให้ดีก่อนที่จะเลือก
