ในปัจจุบันการเริ่มต้นธุรกิจในญี่ปุ่นไม่ได้เป็นเรื่องยากและไกลตัวชาวต่างชาติอีกต่อไป ชาวต่างชาติจำนวนมากได้รับโอกาสในการเริ่มต้นธุรกิจในญี่ปุ่น สำหรับการลงทุนที่ประสบความสำเร็จ จำเป็นต้องมีการหาข้อมูลและความเข้าใจในการทำธุรกิจ เช่น แนวโน้มตลาดล่าสุด ความเข้าใจข้อกำหนดทางกฎหมาย และอื่นๆ ขั้นตอนแรกในการเริ่มต้นทำธุรกิจมีดังต่อไปนี้
คุณมีปัญหาเกี่ยวกับการหางานในญี่ปุ่นหรือไม่?
■ สิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนเริ่มต้นธุรกิจ
สิ่งที่คุณต้องพิจารณาก่อนที่จะเริ่มต้นในการทำธุรกิจ ควรพิจารณาสิ่งต่อไปนี้:
-
คุณจะทำธุรกิจในอุตสาหกรรมใด?
-
ตลาดเป้าหมายหรือกลุ่มเป้าหมายคือใคร?
-
พฤติกรรมการใช้จ่าย วัฒนธรรม และมารยาทของเป้าหมายของคุณเป็นอย่างไร?
-
เป็นธุรกิจที่ทำกำไรหรือคุ้มค่าหรือไม่?
-
คุณมีความรู้ มีประสบการณ์ หรือเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในธุรกิจนี้หรือไม่?
-
อนาคตสำหรับการเติบโตของตลาด
-
คู่แข่งของคุณคือใคร? คู่แข่งมีการผูกขาดในตลาดนี้หรือไม่?
-
เป็นธุรกิจที่มีเอกลักษณ์หรือมีเสน่ห์หรือไม่?
ใช้เวลาพิจารณาคำตอบด้านบน บางทีคุณอาจมีคำถามเพิ่มอีกสองสามข้อ ลงทุนเวลาเพื่อศึกษาและบางทีอาจจะใช้เงินเพื่อทำความเข้าใจตลาดญี่ปุ่นให้ดีขึ้น และจำไว้ว่ายิ่งคุณมีข้อมูลมากเท่าไหร่ คุณก็จะสามารถดำเนินธุุรกิจได้ดียิ่งขึ้น ทำวิจัยตลาด (หรือจ้างใครสักคนมาทำแทนคุณ) ติดตามเทรนด์ที่มีอยู่ ตรวจสอบธุรกิจยอดนิยมสำหรับชาวต่างชาติ และอาจไปดูตลาดเองที่ญี่ปุ่น (ไม่มีทางใดที่จะเข้าใจตลาดได้ดีไปกว่าการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของตลาด) .
บทความแนะนำ
■ วัฒนธรรมธุรกิจของญี่ปุ่น
การทำความเข้าใจสภาพแวดล้อมทางธุรกิจและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นจะช่วยให้คุณกำหนดแผนการที่จะใช้เริ่มต้นในธุรกิจของคุณ สิ่งสำคัญคือต้องยึดติดกับเป้าหมายของคุณ ต้องใช้ดุลยพินิจและความยืดหยุ่นในการปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงก็มีความสำคัญ ในตอนที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ แนวโน้ม หรือสภาพเศรษฐกิจ ญี่ปุ่นมีมารยาททางธุรกิจที่เข้มงวดมาก ซึ่งรวมถึงวิธีการติดต่อกับลูกค้า ผู้มีโอกาสเป็นหุ้นส่วน หรือผู้อาวุโส หากคุณกำลังวางแผนที่จะทำธุรกิจกับคนญี่ปุ่น อย่าลืมศึกษาถึงวัฒนธรรมในการทำงานของญี่ปุ่นด้วยนะ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทความ: วัฒนธรรมการทำงานในบริษัทญี่ปุ่น การแลกเปลี่ยนนามบัตรในญี่ปุ่นก็เป็นอีกหนึ่งมารยาทที่ต้องศึกษาก่อนการเริ่มต้นธุรกิจ การแลกเปลี่ยนนามบัตรระหว่างการพบกันครั้งแรก ในญี่ปุ่นยังคงเป็นส่วนสำคัญของเริ่มต้นสานสัมพันธ์ทางธุรกิจ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทความ:มารยาทการแลกเปลี่ยนนามบัตรของญี่ปุ่น
■ ติดตามเทรนด์
คุณต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม! อัปเดตเทรนด์ตลอดเวลา ไม่มีทางลัดสำหรับสิ่งนี้ แม้ว่าธุรกิจของคุณจะเฟื่องฟูแค่ไหน แต่การจะคงอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลกธุรกิจ คุณจะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้ทันกับเทรนด์ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในญี่ปุ่น คือการใช้โซเชียลมีเดีย จากข้อมูลของ Market Data Specialist Statista เครือข่ายโซเชียลที่ใช้กันมากที่สุดทั่วโลก ณ มกราคม 2021 ได้แก่ Facebook, Youtube และ WhatsApp ในทางกลับกัน โซเชียลเน็ตเวิร์กที่ใช้มากที่สุดในญี่ปุ่น ณ สิ้นปี 2020 ได้แก่ Youtube, Line และ Twitter ข้อมูลเช่นนี้มีค่ามากเมื่อทำการตลาดให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ
■ การลงทุนธุรกิจยอดนิยมสำหรับชาวต่างชาติ
อุตสาหกรรมส่วนใหญ่ที่ชาวต่างชาติมาลงทุนดำเนินธุรกิจมีดังนี้
1. ร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารอิตาลี ฝรั่งเศส อินเดีย เนปาล เวียดนาม มีร้านอาหาร ผับ คาเฟ่ในญี่ปุ่นที่ดำเนินกิจการโดยชาวต่างชาติมากมาย และคงจะมีเพิ่มขึ้นอีกมากมายตามมา
2. เทคโนโลยีขั้นสูง ญี่ปุ่นยินดีต้อนรับผู้ที่มีความสามารถมาพัฒนาเทคโนโลยีและความสามารถด้านวิศวกรรมอยู่เสมอ อันที่จริง รัฐบาลเสนอโปรแกรมจูงใจให้กับบริษัทที่ทำ R&D เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่สามารถมาจัดตั้งบริษัทได้
3. โรงเรียนสอนภาษา การเริ่มต้นธุรกิจโรงเรียนสอนภาษาเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมมากที่สุดธุรกิจหนึ่งในญี่ปุ่น แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วจะเริ่มต้นด้วยการสอนเพื่อสร้างการคอนเนคชั่นและสำรวจตลาดก่อนที่จะลองลงทุน ส่วนธุรกิจที่เป็นที่นิยมอื่นๆ ได้แก่ บริการนำเข้าและส่งออกระหว่างประเทศ บริษัททัวร์ ท่องเที่ยว การดูแลสุขภาพ และธุรกิจด้านเพลง
■ ทรัพยากรบุคคลและระบบประกันสังคม
หากคุณคิดจะเริ่มต้นธุรกิจในญี่ปุ่น คุณจะต้องมีลูกจ้างอย่างแน่นอน การศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ ที่มาพร้อมกับหน้าที่ในฐานะนายจ้างเป็นสิ่งจำเป็น เช่น
-
ค่าแรงขั้นต่ำ ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2019 ค่าแรงรายชั่วโมงขั้นต่ำของโตเกียวตอนนี้อยู่ที่ 1,013 เยน และแต่ละจังหวัดมีค่าจ้างขั้นต่ำของตนเอง
-
ระบบประกันสังคม ประกันของบริษัท ประกอบด้วย
ประกันแรงงาน (労働保険) ประกันการว่างงานบวกประกันค่าชดเชยอุบัติเหตุในการทำงาน
ประกันสังคม (社会保険) ประกันบำเหน็จบำนาญพร้อมประกันสุขภาพ
โปรดทราบว่าเมื่อจัดตั้งบริษัท คุณต้องติดต่อส่งข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ สำนักงานบำเหน็จบำนาญและ Hello Work
※JETRO “4.9 ระบบประกันสังคมของญี่ปุ่น”
■ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
การเริ่มต้นธุรกิจในญี่ปุ่นอาจเป็นเรื่องยากดังที่คุณได้เห็นจากบทความนี้แล้ว และเรายังไม่ได้พูดถึงเรื่องภาษีที่ยุ่งยากเลยด้วยซ้ำ โชคดีที่ตอนนี้มีบริการสำหรับให้คำปรึกษาในการจัดตั้งบริษัทโดยเฉพาะในญี่ปุ่นซึ่งคุณสามารถปรึกษาหรือมอบหมายเรื่องทั้งหมดให้ก็ได้ คุณสามารถติดต่อ ศูนย์จัดตั้งธุรกิจแบบครบวงจรในโตเกียว ของรัฐบาลกรุงโตเกียวซึ่งคล้ายๆวันสต๊อปเซอร์วิส ที่มาที่เดียวก็สามารถจัดการได้ทุกอย่าง สะดวกมากจริงๆ
การเริ่มต้นธุรกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่างประเทศอาจเป็นเรื่องที่น่ากลัว แต่เมื่อธุรกิจของคุณเริ่มเติบโต มันจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างมาก อย่าตั้งข้อจำกัดให้กับตัวเองและมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งที่ยากหรือเป็นไปไม่ได้ ทำตามความฝันของคุณให้เป็นจริงและรับรางวัลสำหรับความพยายามของคุณ เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยคุณในการเดินทางสู่ความสำเร็จในการเริ่มต้นธุรกิจที่ญี่ปุ่น
