ค่าแรงขั้นต่ำของงานพาร์ทไทม์ในญี่ปุ่น & ภาษี & ประกัน และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่คุณควรรู้!

อัตราค่าแรงขั้นต่ำของญี่ปุ่น (ค่าจ้างรายชั่วโมงงานพาร์ทไทม์) จะมีการปรับปรุงใหม่ทุกปีในเดือนตุลาคม ในบทความนี้ เราจะมาดูอัตราค่าแรงขั้นต่ำล่าสุดของญี่ปุ่นที่ใช้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2024 ตามภูมิภาคต่าง ๆ พร้อมกับข้อมูลเกี่ยวกับภาษี ประกัน และสิทธิประโยชน์ทางสังคมที่คุณควรรู้ หากคุณสนใจทำงานพาร์ทไทม์ในญี่ปุ่น อย่าลืมติดตามเนื้อหาของบทความนี้!

สารบัญ

■ อัตราค่าแรงขั้นต่ำในญี่ปุ่น (ตั้งแต่ตุลาคม 2024)

■ ภาษีงานพาร์ทไทม์ในญี่ปุ่น

■ ประกันบำนาญแห่งชาติ และ ประกันสุขภาพแห่งชาติ

■ สิทธิประโยชน์และสวัสดิการต่าง ๆ ที่ผู้ทำงานพาร์ทไทม์ในญี่ปุ่นสามารถได้รับ

คุณมีปัญหาเกี่ยวกับการหางานในญี่ปุ่นหรือไม่?

คุณเจองานที่เหมาะกับคุณหรือยัง? คุณต้องการทราบว่าบริษัทไหนบ้างที่จ้างชาวต่างชาติ คุณกังวลเกี่ยวกับอนาคตการทำงานของคุณในญี่ปุ่น คุณไม่รู้ว่าวีซ่าปัจจุบันของคุณสามารถทำงานอะไรได้บ้าง

หากคุณกังวลเรื่องการหางานในญี่ปุ่น, WeXpats Agent ช่วยคุณได้! ฟรี ปรึกษากับ WeXpats Agent

■ อัตราค่าแรงขั้นต่ำในญี่ปุ่น (ตั้งแต่ตุลาคม 2024)

ค่าจ้างขั้นต่ำ (รายชั่วโมง) ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ‘最低賃金 ;Saitei chingin’ ค่าจ้างขั้นต่ำในญี่ปุ่นจะแตกต่างกันไปตามแต่ละจังหวัด (都道府県 Todōfuken) ในบทความนี้ เราจะมาดูอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่ใช้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2024 ตามภูมิภาคต่าง ๆ ให้คุณตรวจสอบค่าจ้างในพื้นที่ที่คุณจะทำงาน (※) ยกตัวอย่างเช่น โตเกียวคือ 1,163 เยน และโอซาก้าคือ 1,114 เยน

※ ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น <令和6年度地域別最低賃金改定状況>

การเริ่มงานพาร์ทไทม์ในญี่ปุ่น: สิ่งที่ควรรู้ก่อนเริ่มงาน!

สำหรับนักศึกษาต่างชาติ การทำงานพาร์ทไทม์จำเป็นต้องได้รับ "ใบอนุญาตทำกิจกรรมนอกเหนือจากที่ระบุในวีซ่า (APPLICATION FOR PERMISSION TO ENGAGE IN ACTIVITY OTHER THAN THAT PERMITTED UNDER THE STATUS OF RESIDENCE PREVIOUSLY GRANTED)" ก่อนเริ่มงาน

คุณสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัครอนุญาตได้จากเว็บไซต์ของกระทรวงยุติธรรมญี่ปุ่น เมื่อกรอกแบบฟอร์มเรียบร้อยแล้ว สามารถยื่นขออนุญาตได้ที่สนามบินหลักตอนที่เดินทางเข้าญี่ปุ่น หรือหลังจากเข้าญี่ปุ่นแล้วสามารถยื่นขอที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่ดูแลพื้นที่ที่คุณพำนักอยู่ หากได้รับการอนุมัติแล้ว จะมีตราประทับบนด้านหลังของบัตรพำนัก (Resident Card) ของคุณ

*ดาวน์โหลดใบสมัครอนุญาตทำกิจกรรมนอกเหนือจากที่ระบุในวีซ่า >> http://www.moj.go.jp/isa/content/930004124.pdf

ถึงแม้จะได้รับอนุญาตแล้ว นักศึกษาจะต้องปฏิบัติตามกฎในการทำงานไม่เกิน 28 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (หากเป็นช่วงปิดภาคเรียนหรือวันหยุดยาว สามารถทำงานได้ไม่เกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน) และต้องไม่ทำงานในอุตสาหกรรมที่ถูกกฎหมายห้าม เช่น อุตสาหกรรมบันเทิงสำหรับผู้ใหญ่ เป็นต้น

สำหรับผู้ที่ถือวีซ่า Working Holiday แม้จะไม่มีการจำกัดเวลาทำงาน แต่ก็ยังคงห้ามทำงานในอุตสาหกรรมที่ถูกกฎหมายห้ามเช่นกัน จึงควรระมัดระวัง

บทความแนะนำ

ประกาศ!! Ponga-chan คาแรคเตอร์ของ WeXpats อย่างเป็นทางการ

การทำงานในญี่ปุ่น

วิธีติดตั้งแอป Suica บัตรรถไฟญี่ปุ่นบนโทรศัพท์มือถือ

การท่องเที่ยวในญี่ปุ่น

วีทูบเบอร์ (Vtuber) คืออะไร? แนะนำค่ายวียอดนิยมในญี่ปุ่น - ไทย (2024)

วัฒนธรรมญี่ปุ่น

[รีวิว] วอร์เนอร์ บราเธอร์ส สตูดิโอทัวร์ โตเกียว - เดอะ เมคกิ้ง ออฟ แฮ...

การท่องเที่ยวในญี่ปุ่น

เที่ยวไร่ชาญี่ปุ่น พักโฮมสเตย์ สัมผัสวิถีชีวิตชาวไร่เก็บชาที่ญี่ปุ่น

การท่องเที่ยวในญี่ปุ่น

■ ภาษีงานพาร์ทไทม์ในญี่ปุ่น

สิ่งที่ต้องใส่ใจในชีวิตการทำงานพาร์ทไทม์ในญี่ปุ่นคือ "ภาษี (税金;Zeikin)" ในญี่ปุ่นจะเรียกเก็บภาษีโดยแยกตามประเภทของผู้พำนักอาศัย ไม่ใช่ตามสถานะ เช่น เป็นนักศึกษาหรือพนักงาน ซึ่งหมายความว่านักศึกษาต่างชาติก็จะต้องเสีย ภาษีเงินได้ (所得税; Shotoku zei) ตามรายได้ของพวกเขาเช่นกัน

ผู้พำนักอาศัย (居住者) หมายถึงบุคคลที่มีที่อยู่ในญี่ปุ่นเกิน 1 ปี ซึ่งรวมถึงชาวต่างชาติด้วย แม้ว่าจะทำงานพาร์ทไทม์ก็ตาม หากไม่ใช่งานระยะสั้น (เช่น งานพาร์ทไทม์ที่ทำไม่เกิน 2 เดือน) หรือไม่ได้ยื่นขอหักลดหย่อนค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ภาษีจะถูกหัก ณ ที่จ่ายตามกฎหมาย ซึ่งหมายความว่าเงินเดือนที่คุณคาดว่าจะได้รับ (คิดจากชั่วโมงการทำงาน × ค่าจ้างรายชั่วโมง) จะถูกหักภาษีออกไป ทำให้หลายคนรู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นเงินเดือนจริง

นอกจากนี้ หากคุณไม่ได้เป็นพนักงานที่จ่าย ภาษีท้องถิ่น (住民税; Jūminzei) จากเงินเดือนโดยตรง คุณจะได้รับใบแจ้งหนี้ภาษีท้องถิ่นที่บ้านทุกเดือนมิถุนายน ซึ่งจะต้องจ่ายเป็นงวด ๆ 4 ครั้ง หากไม่มีข้อมูลล่วงหน้า คุณอาจรู้สึกสับสนกับภาษีที่ต้องจ่ายโดยไม่คาดคิด

หากมีรายได้ต่อปีเกิน 1,030,000 เยน จำเป็นต้องยื่นภาษีประจำปี

สำหรับผู้ที่พำนักอาศัยในญี่ปุ่นและมีรายได้ที่ไม่ใช่พนักงานบริษัท หากมีรายได้ต่อปีเกิน 1,030,000 เยน ทุกคนมีหน้าที่ต้องยื่น ภาษีประจำปี (確定申告; Kakutei Shinkoku) เป็นการส่วนตัว

การยื่นภาษีนี้อาจทำให้คุณต้องจ่ายภาษีเพิ่มเติมสำหรับรายได้ที่ยังไม่ได้ถูกหักภาษีล่วงหน้า แต่ในกรณีที่รายได้ไม่เกิน 1,030,000 เยนและไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ แต่สถานที่ทำงานได้หักภาษี ณ ที่จ่ายไปแล้ว คุณสามารถยื่นคำขอคืนภาษีได้

คุณสามารถตรวจสอบว่ามีการหักภาษี ณ ที่จ่ายหรือไม่ และจำนวนเงินที่ถูกหัก ได้จาก ใบแจ้งรายละเอียดเงินเดือน ของคุณ

การยื่นภาษีประจำปีนี้มักดำเนินการระหว่างช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนมีนาคมของทุกปีที่สำนักงานสรรพากรในเขตที่คุณอาศัยอยู่ (วันเวลาที่แน่นอนสามารถตรวจสอบได้ในปีนั้น ๆ) เอกสารพื้นฐานที่ต้องเตรียมคือ ใบแสดงการหักภาษี ณ ที่จ่าย (源泉徴収票;Genzenchōshū-hyō) ซึ่งคุณสามารถขอรับจากสถานที่ทำงานของคุณได้ ถึงแม้จะเป็นงานพาร์ทไทม์ก็ตาม ดังนั้น ควรติดตามและเตรียมเอกสารให้เรียบร้อย

ใบแสดงการหักภาษี ณ ที่จ่าย (源泉徴収票; Genzenchōshū-hyō) คืออะไร?
: เป็นเอกสารที่ระบุรายได้รวมที่คุณได้รับจากบริษัทในปีนั้น ๆ และจำนวนภาษีเงินได้ที่ถูกหัก ณ ที่จ่าย

■ ประกันบำนาญแห่งชาติ และ ประกันสุขภาพแห่งชาติ

แม้จะไม่ได้เรียกว่า ‘ภาษี’ แต่การสมัครเข้าร่วมและชำระเงิน ‘ประกันบำนาญแห่งชาติ’ และ ‘ประกันสุขภาพแห่งชาติ’ ก็เป็นสิ่งที่ต้องทำเช่นกัน

‘ประกันบำนาญแห่งชาติ (国民年金保険; Kokumin Nenkin Hoken)’ เป็นการประกันที่ทุกคนที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นและมีอายุ 20 ปีขึ้นไปถึง 60 ปีต้องสมัครและชำระเงิน บำนาญประกันแห่งชาตินี้จะถูกทบทวนและกำหนดใหม่ทุกปี สำหรับปีเรวะที่ 5 (ปี 2023) ตั้งแต่เดือนเมษายน 2023 ถึงมีนาคม 2024 ค่าใช้จ่ายรายเดือนอยู่ที่ 16,520 เยน (เป็นจำนวนที่กำหนดไว้เท่ากันสำหรับผู้เข้าร่วมทุกคน)

‘ประกันสุขภาพแห่งชาติ (国民健康保険; Kokumin Kenkou Hoken)’ เป็นระบบประกันสุขภาพของญี่ปุ่น หากคุณจะพำนักในญี่ปุ่นมากกว่า 3 เดือนและไม่ได้เข้าร่วมประกันสังคมของบริษัท ทุกคนรวมถึงชาวต่างชาติต้องสมัคร ค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระขึ้นอยู่กับรายได้และอายุ ในปี 2021 ข้อมูลจากเขตชินจูกุระบุว่าหากมีรายได้ต่อปี 950,000 เยน และอายุไม่อยู่ในช่วง 40-64 ปี ค่าใช้จ่ายรายเดือนประมาณ 8,467 เยน และจะชำระเงินนี้ปีละ 10 ครั้ง

[หมายเหตุ] สำหรับภาษีท้องถิ่น, ประกันบำนาญแห่งชาติ, และประกันสุขภาพแห่งชาติ มีหลายระบบที่ให้การยกเว้นหรือการลดหย่อน เช่น การยกเว้นสำหรับปีแรก, การยกเว้นตามรายได้ต่ำ, หรือการคืนเงินบำนาญสำหรับผู้ที่กลับประเทศหลังจากเข้าร่วมระบบบำนาญมากกว่า 6 เดือน คุณสามารถสอบถามได้ที่หน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับ การขอยกเว้น (減免; Genmen) หรือการยกเว้นภาษี (免除; Menjo)

ภาษีสูงสำหรับผู้ที่ถือวีซ่า Working Holiday ซึ่งถูกจัดเป็นผู้ที่ไม่พำนักอาศัย

แม้ว่าการถือวีซ่า Working Holiday จะไม่มีข้อจำกัดด้านเวลาการทำงาน แต่เนื่องจากถูกจัดเป็นผู้ไม่พำนักอาศัย (เนื่องจากพำนักในญี่ปุ่นน้อยกว่า 1 ปี) ทำให้ต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงถึง 20.42% หากคุณทำงานในอัตราค่าจ้าง 1,000 เยนต่อชั่วโมง จะถูกหักภาษีประมาณ 200 เยน ซึ่งทำให้เหลือเงินสุทธิประมาณ 800 เยน ความแตกต่างนี้อาจทำให้คุณรู้สึกถึงผลกระทบอย่างมาก

ในกรณีของการทำงานพาร์ทไทม์ทั่วไป อัตราภาษีจะขึ้นอยู่กับรายได้ หากรายได้ที่ต้องเสียภาษีน้อยกว่า 1,950,000 เยนต่อปี อัตราภาษีจะอยู่ที่ 5% แต่ถ้ารายได้ระหว่าง 1,950,000-3,300,000 เยน อัตราภาษีจะอยู่ที่ 10% คุณสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัตราภาษีได้ที่เว็บไซต์ของกรมสรรพากรญี่ปุ่น

อย่างไรก็ตาม สำหรับภาษีท้องถิ่น, ประกันบำนาญแห่งชาติ, และประกันสุขภาพแห่งชาติ หากคุณพำนักอยู่ในญี่ปุ่นเพียง 1 ปี หรือมีรายได้ต่ำ คุณอาจมีสิทธิ์ได้รับการยกเว้นหรือการลดหย่อนค่าใช้จ่าย ควรสอบถามที่หน่วยงานที่รับผิดชอบ

■ สิทธิประโยชน์และสวัสดิการต่าง ๆ ที่ผู้ทำงานพาร์ทไทม์ในญี่ปุ่นสามารถได้รับ

ในญี่ปุ่น มีสวัสดิการและสิทธิประโยชน์หลายอย่างที่ผู้ทำงานพาร์ทไทม์สามารถได้รับ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับนักเรียนต่างชาติ โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. การสนับสนุนค่ารถโดยสาร
   หลายที่ทำงานพาร์ทไทม์ในญี่ปุ่นจะมีการสนับสนุน ค่ารถโดยสาร (交通費, Kōtsūhi) นอกเหนือจากเงินเดือน โดยการสนับสนุนอาจมีการจำกัดวงเงิน หรือบางแห่งอาจจ่ายเต็มจำนวน ดังนั้นควรตรวจสอบรายละเอียดล่วงหน้า หากคุณเป็นนักเรียน คุณอาจพิจารณาซื้อ ตั๋วโดยสารรายเดือน (定期券, Teiki-ken) เพื่อเดินทางระหว่างบ้านและโรงเรียน หากที่ทำงานอยู่ในเส้นทางเดียวกันกับที่เดินทางไปโรงเรียน คุณก็อาจจะประหยัดค่าเดินทางไปในตัว ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการเงินของคุณ

2. การจัดหาอาหารสำหรับพนักงาน
   หากคุณทำงานในร้านอาหาร ควรสอบถามว่ามีการจัด อาหารสำหรับพนักงาน (まかない, Makanai) หรือไม่ ซึ่งเป็นอาหารที่ทางร้านจัดให้พนักงานกินฟรีระหว่างเวลางาน นอกจากจะช่วยประหยัดค่าอาหารแล้ว ยังเป็นสวัสดิการที่ดีที่คุณควรพิจารณา

3. ส่วนลดพนักงาน
   หากคุณทำงานในร้านค้า ควรตรวจสอบว่ามี ส่วนลดพนักงาน (社割, Shawari) หรือไม่ ซึ่งจะทำให้คุณสามารถซื้อสินค้าหรือบริการของร้านในราคาที่ลดลง เป็นสิทธิประโยชน์ที่ดีในการประหยัดค่าใช้จ่าย

ดังนั้น เมื่อคุณจะเริ่มทำงานพาร์ทไทม์ในญี่ปุ่น การตรวจสอบสิทธิประโยชน์เหล่านี้ล่วงหน้าจะช่วยให้คุณเลือกงานที่เหมาะสมกับตัวเอง และทำให้ประสบการณ์การทำงานของคุณคุ้มค่าและสนุกสนานมากขึ้น