หลายท่านคงเคยได้ยินประโยคที่ว่าดนตรีนั้นคือชีวิต ดนตรีมีบทบาทสำคัญในชีวิตมนุษย์ ดนตรีสร้างความสนุกสนานเพลิดเพลินเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายคนต้องการเรียนดนตรีและประกอบอาชีพทางด้านดนตรี ดนตรีญี่ปุ่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเป็นที่นิยมในระดับโลก การผสมผสานระหว่างดนตรีแบบดั้งเดิมกับสมัยใหม่ บทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการศึกษาด้านดนตรีอย่างแน่นอน
■ ประวัติดนตรีญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลด้านดนตรีมาจากจีนเป็นส่วนใหญ่ดังจะเห็นได้จากเครื่องดนตรีพื้นเมืองต่างๆได้รับรูปแบบมาจากจีน ดนตรีพื้นเมืองของญี่ปุ่นมีสองรูปแบบที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นคือ กากาคุ(雅楽) เป็นดนตรีที่บรรเลงที่มีความสง่างาม มีความเกี่ยวข้องกับเครื่องดนตรีญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมและมีการเต้นรำประกอบบทเพลง มักบรรเลงในราชสำนัก และ โชเมียว (声明) ซึ่งประกอบด้วยบทสวดมนต์และดนตรีพื้นบ้าน เมื่อเวลาผ่านไป ดนตรีญี่ปุ่นก็พัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยมีการแนะนำรูปแบบดนตรีใหม่ๆ เพื่อสร้างดนตรีญี่ปุ่นที่เรารู้จักในปัจจุบัน เช่น J-POP, J-ROCK รวมถึงเกิร์ลกรุ๊ปอย่าง AKB ในปัจจุบัน
บทความแนะนำ
■ โรงเรียนดนตรีของญี่ปุ่น
มหาวิทยาลัยดนตรีชั้นนำของญี่ปุ่นที่อยากแนะนำมีดังต่อไปนี้
1. Tokyo University of the Arts
Tokyo University of the Arts มี 2 คณะและ 3 บัณฑิตวิทยาลัย คณะดุริยางคศิลป์ที่สอนเกี่ยวกับดนตรีมีแปดหลักสูตร ได้แก่ การแต่งเพลง ดนตรีประกอบ ดนตรีบรรเลง วาทยากร ดนตรีญี่ปุ่นดั้งเดิม ดนตรีทั่วไป ความคิดสร้างสรรค์ทางดนตรีและสิ่งแวดล้อม และหลักสูตรบัณฑิตศึกษาพิเศษ นอกจากนี้ บางครั้งโรงเรียนยังมีการเปิดแสดงบนเวทีในต่างประเทศ เช่น ในกรุงปารีสและสหราชอาณาจักร เพื่อให้นักเรียนมีโอกาสได้มีประสบการณ์ทางดนตรีในต่างประเทศ
2. Toho Gakuen School of Music
Toho Gakuen School of Music มีหลักสูตรดนตรีที่ครอบคลุมซึ่งเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนเอกเครื่องดนตรีที่ต้องการ (เช่น พิณ, เพอร์คัชชัน และเครื่องดนตรีประเภทเป่า) การแต่งเพลง ดนตรีทั่วไป การฝึกร้อง และการฝึกเสียง วิธีการสอนดนตรีใน Toho Gakuen School of Music แตกต่างกันไปตั้งแต่การฝึกปฏิบัติจริง โดยที่ต้องเล่นจริงกับนักเรียนคนอื่นๆ และการแสดงบนเวที พวกเขายังเสนอโปรแกรมที่ไม่ใช่ปริญญาสำหรับนักเรียนที่มาจากต่างประเทศซึ่งเป็นคอร์สระหว่าง 90 วันถึงหนึ่งปีเท่านั้น พวกเขายังมี บัณฑิตศึกษา, มัธยมปลาย, สถาบันออร์เคสตรา และอื่นๆ อีกมากมาย
3. Kunitachi College of Music
Kunitachi College of Music มีหลักสูตรเฉพาะที่เรียกว่า College Modular System ซึ่งใช้เวลาเรียน 4 ปีเพื่อจบหลักสูตร ในระบบนี้ พวกเขาให้นักเรียนเลือกจากคลาสเรียนพื้นฐาน (ชั้นเรียนหลัก) ที่พวกเขาเสนอในขณะที่เลือกวิชาเลือกพิเศษร่วมด้วย มี 2 แผนก คือ ภาควิชาการแสดงและการประพันธ์ และภาควิชาวัฒนธรรมและการศึกษาดนตรี คลาสเรียนแรกมีคลาสเรียนพื้นฐาน 6 แบบ ได้แก่ ร้องเพลง คีย์บอร์ด เครื่องสาย เครื่องดนตรีประเภทเป่าและเครื่องเพอร์คัชชัน ดนตรีแจ๊ซ การประพันธ์เพลง และดนตรีในคอมพิวเตอร์ และมีคลาสเรียนเพิ่มอีก 4 คลาสเรียน: การศึกษาดนตรี, ดนตรีบำบัด, ดนตรีเบื้องต้น และการศึกษาดนตรีปฐมวัย
นอกจากสามมหาวิทยาลัยที่กล่าวถึงไปแล้ว ยังมีมหาวิทยาลัยอื่นๆ ที่ถือว่าเป็นโรงเรียนสอนดนตรีชั้นนำหรือมหาวิทยาลัยสำหรับเรียนดนตรีในญี่ปุ่นที่คุณควรพิจารณา เช่น Showa University of Music, Aichi University of the Arts, The Kyoto City University of Arts, Senzoku Gakuen College of Music และ Musashino Academia Musicae
■ ข้อกำหนด ค่าเล่าเรียนในโรงเรียนดนตรี
เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยอื่น ๆ ในการเข้าเรียนในโรงเรียนดนตรี คุณต้องเรียนให้จบอย่างน้อยมัธยมปลายจึงจะเข้าศึกษาได้ คุณต้องกรอกแบบฟอร์มใบสมัครและส่งไปที่มหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัยที่เกี่ยวข้องและชำระค่าธรรมเนียม นอกจากนี้ยังมีการสอบเข้าที่คุณต้องทำการสอบแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลักสูตร หากคุณสมัครหลักสูตรทักษะภาคปฏิบัติ คุณจะต้องออดิชั่น และถ้าคุณสมัครหลักสูตรที่ไม่ใช่ภาคปฏิบัติ คุณจะต้องสอบด้วยการสอบข้อเขียน หากคุณได้รับการตอบรับเข้าเรียน เพียงชำระค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัยทางดนตรี คุณก็พร้อมที่จะไปเรียนต่อ! มหาวิทยาลัยและโรงเรียนสอนดนตรีบางแห่งกำหนดจำนวนนักศึกษาต่างชาติที่พวกเขารับทุกปี ตัวอย่างเช่น Senzoku Gakuen รับนักเรียนต่างชาติ 66 คนในปี 2019 นอกจากนี้การศึกษาด้านดนตรีสามารถเรียนได้ 2 ถึง 4 ปีขึ้นอยู่กับหลักสูตร แต่บางที่อาจรับนักเรียนต่างชาติในหลักสูตร 3 เดือนถึงหนึ่งปีเท่านั้น ทางที่ดีควรตรวจสอบโรงเรียนดนตรีที่คุณเลือกก่อนเพื่อดูโอกาสในการเข้าศึกษาของคุณ ค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อนั้นไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับมหาลัยและคอร์สที่คุณเลือกเรียน โดยจะตกอยู่ที่ประมาณปีละ 1,300,0000 เยน ถึง 2,200,000 เยน
■ ทุนการศึกษาและโอกาสในอุตสาหกรรมดนตรี
โรงเรียนและองค์กรอื่น ๆ เสนอโครงการทุนการศึกษาที่หลากหลายสำหรับนักเรียนชาวญี่ปุ่นและนักเรียนต่างชาติ ตัวอย่างคือทุนการศึกษา Rohm Music Foundation ที่พวกเขาให้ทุนการศึกษาสูงสุด 300,000 เยนต่อเดือนเป็นเวลาหนึ่งปีหรือจนกว่าจะสำเร็จการศึกษา หลังจากได้รับปริญญาด้านดนตรีแล้ว มีโอกาสมากมายรอคุณอยู่ไม่เฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ในประเทศอื่นๆ ด้วย คุณสามารถเริ่มต้นอาชีพด้านดนตรีของคุณด้วยการเป็นนักร้อง นักแต่งเพลง นักแต่งเพลง วาทยกร นักบรรเลงเพลง หรือแม้แต่สอนดนตรี หรืออาจจะเริ่มต้นเล็กๆ น้อยๆ โดยการเล่นเพลงของคุณไปที่บ้านหรือบาร์ดนตรีในญี่ปุ่น ญี่ปุ่นเป็นตลาดเพลงที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากสหรัฐอเมริกา และเป็นที่ตั้งของบริษัทเพลง Sony Music Entertainment ที่มีชื่อเสียง โอกาสที่ดีในวงการเพลงญี่ปุ่นมีมากมาย ศิลปินญี่ปุ่นและนักดนตรีต่างชาติไม่จำเป็นต้องเจาะตลาดต่างประเทศ เนื่องจากญี่ปุ่นมีตลาดใหญ่อยู่แล้ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของศิลปินเอง
■ สรุป
Henry Longfellow กล่าวว่า "ดนตรีเป็นภาษาสากลของมนุษยชาติ" ผู้คนสามารถเข้าใจและเชื่อมโยงกับดนตรีได้ไม่ว่าจะเป็นภาษาใดก็ตาม ญี่ปุ่นมีโรงเรียนสอนดนตรีชั้นนำที่มีคุณภาพสูงมากมายเพื่อรองรับทั้งนักเรียนชาวญี่ปุ่นและนักเรียนต่างชาติ นี่อาจเป็นโอกาสเพื่อรับทักษะทางดนตรีและในการทำงานแบบมืออาชีพของคุณ บางโรงเรียนได้มีความร่วมมือกับอุตสาหกรรมดนตรีในญี่ปุ่นอยู่แล้ว ซึ่งสามารถเป็นข้อได้เปรียบทั้งสำหรับนักเรียนชาวญี่ปุ่นและนักเรียนต่างชาติที่เรียนดนตรีในญี่ปุ่น ความฝันในการเป็นนักดนตรีของคุณอาจอยู่ไม่ไกลเกินจริง!
