[รีวิว] Monster (怪物 Kaibutsu) หนังญี่ปุ่นที่เพิ่งคว้ารางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งที่ 76 ประจำปี 2023

Monster (怪物: Kaibutsu) ผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของผู้กำกับ ฮิโรคาซุ โคเรเอดะ (是枝裕和: Hirokazu Kore-eda) ผู้ซึ่งเคยได้รับรางวัลปาล์มทองคำ (Palme D'or) จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์จากเรื่อง “Shoplifters” ในครั้งนี้ได้ร่วมงานกับนักเขียนบทชื่อดัง ยูจิ ซาคาโมโตะ (坂元裕二: Yuji Sakamoto) เป็นครั้งแรกและที่สำคัญคือเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นฝีมือการแต่งเพลงชิ้นสุดท้ายของ ริวอิจิ ซาคาโมโตะ (坂本 龍一: Ryuichi Sakamoto) นักแต่งเพลงชื่อดังที่เพิ่งจากไป เรื่องราวของความรัก ความสัมพันธ์ การโกหก ความเข้าใจผิด การดำเนินเรื่องโดยเล่าเหตุการณ์เดียวกันผ่านมุมมองของตัวละครแต่ละตัว (Rashomon Effect) นำไปสู่บทสรุปสุดท้ายของเรื่องราว เข้าฉายทั่วประเทศญี่ปุ่นวันที่ 2 มิถุนายน 2023 และมีโปรแกรมเข้าฉายในไทยวันที่ 14 กันยายน 2023 นี้

เครดิตภาพจาก: Monster 怪物 Official Website 

สารบัญ

• เรื่องย่อ
• นักแสดง
• ทีมงาน
• รางวัลที่ได้รับ
• รีวิวอาจจะมีสปอย!

■ เรื่องย่อ

ในหมู่บ้านที่มีทะเลสาบอันกว้างใหญ่ เรื่องราวของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ซาโอริ มุกิโนะ (麦野早織: Saori Mugino) กับลูกชาย มินาโตะ มุกิโนะ (麦野湊: Minato Mugino) ที่ในวันหนึ่งแม่สังเกตเห็นพฤติกรรมของลูกชายดูแปลกไป เมื่อสอบถามดูได้ความว่าความผิดปกตินี้เกิดจากครูคนหนึ่งในโรงเรียนที่ชื่อ มิจิโทชิ โฮริ (保利道敏: Michitoshi Hori) แต่เมื่อไปสอบถามจากทางโรงเรียนและครูโฮริแล้วพบว่าเป็นสาเหตุมาจากการที่มินาโตะไปทะเลาะวิวาทกับ โยริ โฮชิคาวะ (星川依里: Yori Hoshikawa) การดำเนินเรื่องเรื่องราวเล่าเหตุการณ์เดียวกันผ่านมุมมองของตัวละครแต่ละตัว และพบกับความจริงที่ต่างออกไป เหตุการณ์เริ่มบานปลายจากเรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ และในเช้าวันหนึ่งท่ามกลางพายุ เด็กๆก็หายตัวไปโดยไม่ทราบสาเหตุ

บทความแนะนำ

ประกาศ!! Ponga-chan คาแรคเตอร์ของ WeXpats อย่างเป็นทางการ

การทำงานในญี่ปุ่น

วิธีติดตั้งแอป Suica บัตรรถไฟญี่ปุ่นบนโทรศัพท์มือถือ

การท่องเที่ยวในญี่ปุ่น

Tori no Ichi (酉の市) คืออะไร? เทศกาลญี่ปุ่นเพื่อความโชคดีและความสำเร็...

วัฒนธรรมญี่ปุ่น

วีทูบเบอร์ (Vtuber) คืออะไร? แนะนำค่ายวียอดนิยมในญี่ปุ่น - ไทย (2024)

วัฒนธรรมญี่ปุ่น

แฟชั่นฤดูใบไม้ร่วงสำหรับการท่องเที่ยวญี่ปุ่น

การอาศัยในญี่ปุ่น

■ นักแสดง

ซากุระ อันโดะ (安藤サクラ: Sakura Ando)

ซากุระ อันโดะ เกิดที่โตเกียวในปี 1986 รับบท ซาโอริ มุกิโนะ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เลี้ยงดูมินาโตะคนเดียวตั้งแต่สามีจากไป ซากุระ อันโดะเคยฝากฝีมือไว้ในบท โนบุโยะ จากเรื่อง “Shoplifters” ผลงานของผู้กำกับ ฮิโรคาซุ โคเรเอดะ ที่ได้รับรางวัลปาล์มทองคำ (Palme D'or) จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งที่ 71 และได้รับรางวัลสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมมากมาย

เอตะ นากายามะ (永山瑛太: Eita Nagayama) 

เอตะ นากายามะ เกิดที่โตเกียวในปี 1982 รับบท มิจิโทชิ โฮริ ครูที่ต้องต้องคอยรับมือกับการแกล้งกัน การทะเลาะกันของเด็กๆ มีผลงานที่ผ่านมา อาทิ Dororo (2007), Dear Doctor (2009) และ No More Cry (2009) เป็นต้น เขาได้แต่งงานกับคาเอระ คิมุระ นางแบบ นักร้องชาวญี่ปุ่น มีลูกด้วยกันสองคน

โซยะ คุโรคาวะ (黒川想矢 Soya Kurokawa)

โซยะ คุโรคาวะ เกิดที่จังหวัดไซตามะในปี 2009 เป็นนักเสดงลูกครึ่งไทย - ญี่ปุ่น (คุณพ่อเป็นคนไทย) รับบท มินาโตะ มุกิโนะ เปิดตัวในฐานะนักแสดงใน NTV "Tokyo Alien Brothers" มีผลงานละครโทรทัศน์มากมาย

ฮินาตะ ฮิอิรากิ (柊木陽太: Hinata Hiiragi)

ฮินาตะ ฮิอิรากิ เป็นนักแสดงเด็กชาวญี่ปุ่นเกิดที่จังหวัดเกียวโตในปี 2011 รับบท โยริ โฮชิคาวะ เปิดตัวในฐานะนักแสดงใน ytv/NTV ในปี 2021 จากนั้นก็มีผลงานละครโทรทัศน์ ภาพยนตร์ มิวสิควิดีโอมากมาย

มิสึกิ ทาคาฮาตะ (高畑充希: Mitsuki Takahata)

มิสึกิ ทาคาฮาตะ เกิดที่จังหวัดโอซาก้าในปี 1991 รับบทแฟนสาวของคุณครูโฮริ  มีผลงานที่ผ่านมา อาทิ Dolphin blue: Fuji, mou ichido sora e (2007), Blue Spring Ride (2014) และ Haruko Azumi Is Missing (2016)

อาคิฮิโระ คาคุตะ (角田晃広: Akihiro Kakuta)

อาคิฮิโระ คาคุตะ เกิดที่โตเกียวในปี 1973 รับบท รองผู้อำนวยการโรงเรียนประถมที่มินาโตะและโยริเรียนอยู่

ยูโกะ ทานากะ (田中裕子: Yuko Tanaka)

ยูโกะ ทานากะ หรือที่คนไทยรู้จักกันดีจากบท "โอชิน" เกิดที่จังหวัดโอซาก้าในปี 1955 รับบทครูใหญ่โรงเรียนประถมที่มินาโตะและโยริเรียนอยู่ ได้รับรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากหลายเวที

ชิโด นาคามุระ (中村獅童: Shido Nakamura)

รับบทพ่อของโยริ เกิดที่โตเกียวในปี 1972 เริ่มการแสดงจากละครคาบุกิ รางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมและอีกมากมาย

■ ทีมงาน

ผู้กำกับ

ฮิโรคาซุ โคเรเอดะ (是枝裕和: Hirokazu Kore-eda) ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้กำกับภาพยนตร์ที่ดีที่สุดคนหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น มีผลงานที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก ได้รับรางวัลปาล์มทองคำ (Palme D'or) จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งที่ 71 จากเรื่อง “Shoplifters” และรางวัล “Best Screenplay” และ “Queer Palm Award” จากเรื่องนี้ ผลงานของโคเรเอดะ ส่วนใหญ่จะเป็นภาพยนตร์แนวครอบครัวที่มีมุมมองที่แปลกออกไป มีความดราม่าสะเทือนใจ แนะนำ 5 ภาพยนตร์ที่ดีที่สุดนอกจาก Monster (怪物 Kaibutsu) ที่อยากให้ลองดูมีดังนี้ 

1. Nobody Knows (2004) 
2. Still Walking (2008) 
3. Like Father, Like Son (2013) 
4. The Third Murder (2017) 
5. Shoplifters (2018)

บทภาพยนตร์

ยูจิ ซาคาโมโตะ (坂元裕二: Yuji Sakamoto) เกิดที่โอซาก้าในปี 1967 เดบิวต์เขียนบทภาพยนตร์เมื่ออายุ 19 ปี โดยได้รับรางวัล Fuji TV Young Scenario Award เดินทางเข้าโตเกียวทำงานเป็นผู้ช่วยที่สถานีโทรทัศน์ในขณะที่ฝึกฝนทักษะการเขียนบทไปด้วย เขาได้เขียนบทละครที่มีชื่อเสียงมากมาย และยังได้รับรางวัลทั้งรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและบทละครยอดเยี่ยมจากหลากหลายเวที นอกจากจะเป็นนักเขียนบทแล้ว ยูจิ ซาคาโมโตะยังเป็นนักแต่งเพลงและเป็นอาจารย์ที่คณะ Graduate School of Film and New Media มหาวิทยาลัยศิลปะโตเกียว

เพลงประกอบ

ริวอิจิ ซาคาโมโตะ (坂本 龍一: Ryuichi Sakamoto) เกิดที่โตเกียวในปี 1952 เป็นนักดนตรีและนักแต่งเพลงชื่อดังระดับโลกชาวญี่ปุ่น และมือคีย์บอร์ดของวง Yellow Magic Orchestra วงดนตรีระดับตำนาน เสียชีวิตเมื่อ 28 มีนาคมที่ผ่านมาด้วยวัย 71 ปี เคยได้รับรางวัลออสการ์ และแกรมมี่จากการทำดนตรีประกอบให้ภาพยนตร์ "The Last Emperor" ในปี 1987 แถมยังเคยร่วมงานกันกับเจ้ย - อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ผู้กำกับชื่อดังของไทยในอัลบั้ม ‘Async’ อีกด้วย ผลงานเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นฝีมือการแต่งเพลงชิ้นสุดท้ายของเขา

■ รางวัลที่ได้รับ

Monster (怪物: Kaibutsu) เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัล “Best Screenplay” บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและ “Queer Palm Award” ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ LGBTQ+ หรือมีตัวละครที่ท้าทายบรรทัดฐานทางเพศของสังคม นับเป็นเป็นภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่องแรกที่ได้รับรางวัลนี้ ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งที่ 76 ประจำปี 2023 

Monster (怪物: Kaibutsu) เป็นผลงานการเขียนบทโดย ยูจิ ซาคาโมโตะ ผู้ที่มีผลงานยอดนิยมมากมายในญี่ปุ่น โดยเล่าเรื่องราวได้มีมิติซับซ้อนค่อยๆคลายปมน่าสงสัย เล่าสลับเหตุการณ์เดียวกันผ่านมุมมองของตัวละครต่างๆ ทำให้เห็นมุมมองเหตุการณ์เดียวกันไปตามมุมของตัวละครแต่ละราย เรียกว่าการใช้วิธีการเล่าในแบบ Rashomon Effect ซึ่งเป็นวิธีการเล่าเรื่องในภาพยนตร์เรื่อง ราโชมอน (Rashomon 1950) ของผู้กำกับ อาคิระ คุโรซาวะ นั่นเอง 

■ รีวิวอาจจะมีสปอย!

Monster (怪物: Kaibutsu) เล่าเรื่องสลับเหตุการณ์เดียวกันผ่านมุมมองของตัวละครต่างๆ ทำให้เห็นมุมมองเหตุการณ์เดียวกันไปตามมุมของตัวละครแต่ละราย 

เริ่มจาก “ซาโอริ” คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวผู้ต้องเจอแต่เรื่องกลุ้มใจเมื่อ “มินาโตะ” ลูกชายของเธอแสดงพฤติกรรมแปลกๆไปคล้ายเก็บกดโดนรังแกจากที่โรงเรียน แต่พอสอบถามกลับพบว่าสาเหตุมาจาก “ครูโฮริ” ครูที่โรงเรียนใช้ความรุนแรงลงโทษจนเลือดตกยางออกและพูดจาร้ายกาจว่าสมองมินาโตะเป็น “สมองหมู” ก่อนเหตุการณ์จะค่อยๆคลี่คลายเมื่อหันมามองในมุมของ “ครูโฮริ” ที่ว่ามินาโตะมีนิสัยชอบข่มเหงรังแกนักเรียนชายร่วมชั้นคือ “โยริ” มุมที่ครูโฮริไม่ได้ตั้งใจทำร้ายมินาโตะจนเลือดตกยางออกมันเป็นเพียงอุบัติเหตุ และสุดท้ายครูโฮริก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดหลังจากที่ได้อ่านบทความของมินาโตะ แต่เมื่อบทหนังเริ่มหันมาเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของนักเรียนชายทั้งสอง “มินาโตะ” และ “โยริ” ความเข้าใจของเรื่องทั้งหมดก็เปลี่ยนไปเป็นคนละมุม ความสนิทสนมและสถานที่ลับที่มีเพียงแค่พวกเขาสองคนเท่านั้นที่รู้ คนดูจะเริ่มเข้าใจความสัมพันธ์ของสองคนที่ไม่อาจเป็นที่ยอมรับในสังคมได้ นำไปสู่เหตุการณ์ที่สะท้อนให้เห็นความเป็นจริงที่ว่าความสัมพันธ์ของคนเรานั้นไม่ได้มีแค่มุมเดียว และการมองสถานการณ์เดียวกันจากเพียงมุมเดียว มันไม่ได้แสดงถึงภาพความจริงที่เกิดขึ้นได้

ความรู้สึกหลังจากที่ดูจบคือคนเขียนบทเก่งมาก!! สมแล้วที่ได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม การเล่าเรื่องแบบ Rashomon Effect ทำให้เหตุการณ์ค่อยๆคลี่คลายจนเราเข้าใจถึง “ความเป็นมนุษย์” ไม่มีใครที่ดีร้อยเปอร์เซ็นต์ มุมมองเพียงมุมเดียวไม่อาจเห็นความเป็นจริงทั้งหมด การโกหกทำเพื่อปกป้องตัวเองและคนที่เรารัก บางครั้งการพูดความจริง การที่ซื่อสัตย์ต่อตัวเองก็อาจทำให้ต้องเจอเหตุการณ์ร้ายๆอย่างที่ไม่คาดคิดก็ได้ ความรักความสัมพันธ์ในโลกนี้ก็ไม่ได้มีแบบเดียว ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าปกติหรือไม่ปกติ การเลือกปฏิบัติจากครอบครัวหรือการล้อเลียนที่โรงเรียน มาตรฐานสังคมที่ทำให้ต้องปิดบังตัวตน เป็นสิ่งที่ทำให้เรื่องเล็กๆกลายเป็นเรื่องใหญ่ จนพบจุดจบที่ไม่คาดคิด สุดท้ายแล้ว 怪物だーれだ? (Kaibutsu dareda?) ใครคือสัตว์ประหลาด? กันแน่

Monster (怪物: Kaibutsu) ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของผู้กำกับ ฮิโรคาซุ โคเรเอดะ ที่ได้รับรางวัล “Best Screenplay” บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและ “Queer Palm Award” ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ LGBTQ+ ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งที่ 76 ประจำปี 2023 มีโปรแกรมเข้าฉายในไทยวันที่ 14 กันยายน 2023 นี้