หมายเหตุ: บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่แต่ละบุคคลเผชิญและรู้สึกในระหว่างกระบวนการต่ออายุวีซ่าในญี่ปุ่น แต่เราไม่มีความตั้งใจที่จะวิจารณ์เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง การตอบสนองของแต่ละบุคคลจะแตกต่างกัน แต่หากใครรู้สึกคล้ายกับทีมงานของเรา เราหวังว่าบทความนี้จะนำเสนอทางออกที่สะดวกและง่ายสำหรับคุณ
เมื่อทำงานที่ญี่ปุ่นในระยะยาว หนึ่งในขั้นตอนที่คนส่วนใหญ่จะต้องเผชิญคือการต่ออายุวีซ่าเพื่อขยายเวลาพำนักต่อในญี่ปุ่น
กระบวนการนี้สามารถทำได้ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่หรือทางออนไลน์ แต่ใครก็ตามที่เคยผ่านกระบวนการนี้มาก็มีมักจะมีแนวโน้มที่จะคิดเหมือนกัน
คุณต้องขอเอกสารจากทางบริษัทและจัดเตรียมเอกสารที่จำเป็นในการขอต่ออายุวีซ่า การต้องหยุดงานวันหรือสองวันเพื่อไปดำเนินการต่ออายุวีซ่ามักทำให้รู้สีกเสียดายที่จะต้องใช้วันหยุดที่มีอยู่น้อยนิด! ถึงแม้ว่าตอนนี้จะสามารถสมัครผ่านทางออนไลน์ได้ แต่หลังจากส่งใบสมัครแล้ว คุณก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความรู้สึกกังวลได้ว่า “ที่ส่งไปจะได้รับการอนุมัติหรือเปล่านะ?”
เราได้รวบรวมทีมงาน WeXpats ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการต่ออายุวีซ่ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน!
พวกเขาจะมาแบ่งปัน "ประสบการณ์การต่ออายุวีซ่า" ที่พวกเขาหรือคนที่พวกเขารู้จักได้เคยประสบมา หากคุณกำลังจะต้องเผชิญกับกระบวนการต่ออายุวีซ่า อย่าลืมนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้เป็นแนวทาง!
บทความนี้นำเสนอโดย AIRVISA สามารถติดตามบริการเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์
มาพูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์การต่ออายุวีซ่าของแต่ละคนกัน
รีเบคก้า: วันนี้ฉันได้รับคำขอให้มาช่วยแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับ “กระบวนการต่ออายุวีซ่า (Application for Extension of Period of Stay)” วางใจได้เลย ฉันพูดเรื่องนี้ได้ทั้งวัน ฮ่าๆ
แฟรงค์: ทุกคนคงมีประสบการณ์จะเล่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ใช่ไหม?
คิม: ก่อนอื่น เราจะพูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์ของเรานะครับ ขอให้เข้าใจว่าเราไม่มีเจตนาจะวิจารณ์เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่ทำงานหนักเพื่อประโยชน์ของชาวต่างชาติ!
การขอขยายระยะเวลาพักอาศัยคืออะไร?
ขั้นตอนสำหรับชาวต่างชาติในการต่ออายุ “สถานะการพักอาศัยในญี่ปุ่น” และขอรับบัตรประจำตัวผู้พักอาศัยใหม่ เพื่ออาศัยต่อในญี่ปุ่น สามารถดำเนินการที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองประจำเขตที่รับผิดชอบพื้นที่ ที่คุณอาศัยอยู่ หรือสามารถทำได้ทางออนไลน์ตั้งแต่ปี 2019
รีเบคก้า: โอเค ฉันจะเริ่มก่อน นี่คือสิ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย
แฟรงค์: ใช่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเปิดเฉพาะวันธรรมดา
คิม: ตอนนี้ก็ยังดีนะที่เราสามารถสมัครออนไลน์ได้แล้ว แต่คุณยังต้องไปหาซื้อการ์ดรีดเดอร์ และก็ยังต้องกังวลว่าเอกสารที่ส่งไปจะเรียบร้อยหรือเปล่า จะผ่านมั้ย ติดค้างในระบบมั้ย ซึ่งเราไม่สามารถรู้ได้เลย คนที่ฉันรู้จักส่วนใหญ่จึงยังชอบไปที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองด้วยตัวเอง
รีเบคก้า: ใช่เลย ฉันต่ออายุวีซ่าเมื่อปีนี้ ฉันกังวลมากเพราะเป็นครั้งแรกที่ต้องไปที่สำนักงานเอง
แฟรงค์: การสมัครครั้งแรกเป็นยังไงบ้าง?
รีเบคก้า: ฉันรู้สึกเสียดายจริงๆ ที่ไม่ทำออนไลน์ (หัวเราะ) นี่เป็น “การใช้วันหยุดที่มีค่าไปอย่างไม่เต็มใจ” ที่สุดแล้วในชีวิตฉัน
คิม: ฉันเข้าใจที่คุณพูด มันน่าเบื่อมาก สำหรับฉันรู้สึกแย่กว่าการทำงานในวันหยุดเสียอีก
แฟรงค์: อาจจะเป็นแค่ความรู้สึกของฉัน แต่…
แฟรงค์: …มันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ
รีเบคก้า: เพราะคุณต้องนั่งรออยู่ที่นั่นตลอดเวลา…
คิม: รู้สึกเหมือนมีความกดดันที่มองไม่เห็น ต้องนั่งเกร็งตลอดเวลา
รีเบคก้า: ใช่! เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยและเดินออกไปจากตรงนั้น รู้สึกเบาขึ้นมากเลย
คิม: มันรุ้สึกเหมือนอยู่ใน “ห้องแห่งกาลเวลา” จากเรื่อง Dragon Ball เหมือนมีแรงโน้มถ่วงภายในนั้นเป็น10เท่าของโลก
แฟรงค์: รู้สึกเหมือนเวลามันช้ามากจริงๆ
รีเบคก้า: รอนานมาก! ฉันไปถึงตอน 10 โมงเช้า แต่ยังต้องรออีก 3 ชั่วโมง
แฟรงค์: มันขึ้นอยู่กับสถานที่ แต่เวลารอที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองชินากาว่ามักจะใช้เวลาหลายชั่วโมง…
รีเบคก้า: นั่นคือเหตุผลที่บรรยากาศในรถบัสที่ไปสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมักจะดูหม่นหมอง แม้ว่าจะมีวิวทะเลสวยๆ แต่รถบัสเงียบจนรู้สึกเหมือนห้ามพูดคุยกัน
แฟรงค์: แต่ฉันได้ยินว่ามันแย่กว่านี้ในพื้นที่ชนบท
แฟรงค์: ฮอกไกโดมีขนาด 38 เท่าของโตเกียว แต่มีเพียง 4 แห่งที่สามารถต่อวีซ่าได้ ดังนั้นคนที่อาศัยอยู่ห่างไกลจึงประสบปัญหา เพื่อนของฉันยอมแพ้ในการทำในวันเดียว เขาพักค้างคืนและไปกินไคเซนด้ง (ข้าวหน้าซีฟู้ด) ที่คุชิโระ
รีเบคก้า: สำหรับคนที่อาศัยอยู่ไกล การลืมอะไรไปอาจกลายเป็นหายนะ มันไม่น่าเป็นไปได้ที่คุณจะลืมแบบฟอร์มการสมัคร ฉันรู้จักคนที่…
รีเบคก้า: …เป็นแบบนั้นแหละ และแย่กว่านั้นคือเขารอนานหลายชั่วโมงก่อนที่จะรู้ว่าซื้อแสตมป์ไม่ได้
คิม: โอ้ว…มันน่ากลัวจริง ๆ…
แฟรงค์: มันแย่มากจนฉันอาจจะฝันร้ายเกี่ยวกับมันคืนนี้
รีเบคก้า: ถ้าคุณวางแผนจะซื้อแสตมป์ในวันเดียวกัน อย่าลืมนำกระเป๋าสตางค์ไปด้วย
แฟรงค์: แต่ตราบใดที่คุณมีเงินสด มันดีที่คุณสามารถซื้อได้ง่าย ๆ ที่ร้านสะดวกซื้อใกล้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
คิม: และดังนั้น…
บทความแนะนำ
ความวิตกกังวลขณะรอผลการสมัครออนไลน์เหมือนกันหรือไม่ ลองเปรียบเทียบประสบการณ์ของแต่ละคน
แฟรงค์: จนถึงตอนนี้เราพูดถึงการสมัครด้วยตนเองในวันนั้น แต่การกรอกแบบฟอร์มการสมัครก็เป็นเรื่องยุ่งยากเหมือนกัน
รีเบคก้า: ฉันกังวลว่าฉันกรอกแบบฟอร์มถูกต้องหรือเปล่า! ต้องละเอียดแค่ไหนในส่วน “รายละเอียดงาน (活動内容詳細)” กันนะ!?
คิม: นอกจากนี้ บริษัทก็ต้องกรอกส่วน “รายละเอียดงาน” ด้วย
รีเบคก้า: ใช่เลย เมื่อฉันฝากให้บริษัททำ พวกเขาแค่เขียนว่า "การตลาด" ฉันก็แบบ "ชีวิตทั้งชีวิตของฉันทุ่มเทกับงาน และคุณใส่แค่นี้!?" (หัวเราะ)
แฟรงค์: ใช้เวลานานมากกว่าจะได้รับผลหลังจากที่สมัครไป ฉันได้ยินว่าจำนวนคนที่เข้าญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ดังนั้นใช้เวลาหลายเดือน
รีเบคก้า: ถูกต้อง ฉันสมัครในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ (2024) และไม่รู้ผลจนถึงเดือนมิถุนายน
คิม: มันยากจริง ๆ
รีเบคก้า: ฉันไม่รู้ว่าบัตรแจ้งผลจะมาถึงเมื่อไหร่ ดังนั้นฉันต้องตรวจสอบกล่องจดหมายทุกวัน
แฟรงค์: ฉันจะกังวลและค้นถังขยะดูข้างใน คิดว่า “ฉันอาจจะเผลอทิ้งโปสการ์ดไป!”
คิม: แต่ถ้าคุณสมัครออนไลน์ มันจะมาถึงทางอีเมลแทนที่จะเป็นโปสการ์ด ดังนั้นคุณจะไม่ต้องกังวลเรื่องทิ้งไปโดยบังเอิญ
แฟรงค์: นั่นดีจัง
รีเบคก้า: การเปรียบเทียบระหว่างการสมัครที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกับการสมัครออนไลน์ก็ประมาณนี้
คิม: การสมัครออนไลน์สะดวกมาก เพราะคุณไม่ต้องไปที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเลยแม้แต่ครั้งเดียว ฉันไม่ต้องหยุดงานในวันธรรมดา และยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอีกด้วย ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ดีมาก
รีเบคก้า: ข้อเสียคือคุณต้องมีเครื่องอ่านบัตร และกระบวนการก็ซับซ้อนเล็กน้อย ไม่ได้ยากขนาดนั้นเมื่อคุณลองทำจริง ๆ แต่ถ้าคุณไม่เก่งภาษาญี่ปุ่นหรือภาษาอังกฤษ คุณอาจรู้สึกท้อแท้จากคำแนะนำที่ยาวเหยียด
แฟรงค์: อืม ถ้ามีวิธีที่ง่ายและปลอดภัยในการต่ออายุวีซ่า…
AIRVISA เป็นบริการออนไลน์ที่ช่วยให้คุณสามารถยื่นขอต่ออายุวีซ่าได้อย่างสะดวก ทุกที่ ทุกเวลา
เพียงแค่กรอกข้อมูลของคุณและบริษัทตามคำแนะนำที่มีให้! AIRVISA จะรับผิดชอบดำเนินการยื่นขอแทนคุณ
ก่อนส่งคำร้อง ผู้เชี่ยวชาญจะตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล ทำให้ผู้ที่ยื่นขอครั้งแรกสามารถรู้สึกสบายใจได้ หากมีคำถามเกี่ยวกับขั้นตอน คุณสามารถสอบถามได้ผ่านแชทซัพพอร์ต
ผลการอนุมัติจะถูกส่งทางอีเมล และบัตรประจำตัวผู้พำนักใหม่จะถูกส่งทางไปรษณีย์ คุณจึงไม่จำเป็นต้องไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองด้วยตนเอง
ค่าบริการอยู่ที่ 9,800 เยน (รวมภาษีเป็น 10,380 เยน) ครอบคลุมทั้งค่าธรรมเนียมแสตมป์และค่าไปรษณีย์สำหรับส่งบัตรประจำตัวผู้พำนัก
※ ณ เดือนกันยายน 2024 บริการนี้รับเฉพาะการต่ออายุวีซ่าสำหรับผู้ที่อยู่ในประเภท "วิศวกร / ผู้เชี่ยวชาญในสาขามนุษยศาสตร์ / บริการระหว่างประเทศ"
รีเบคก้า: อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ต้นว่าบทความนี้เป็น PR สำหรับ AIRVISA แต่ถึงจะไม่สนใจด้าน PR ก็นับว่าเป็นบริการที่ดีนะ ใช่ไหม?
แฟรงค์: เห็นด้วยเลย เพราะค่าแสตมป์อยู่ที่ 4,000 เยน ดังนั้นค่าบริการที่แท้จริงก็ประมาณ 6,000 เยน เมื่อคิดถึงค่าเดินทางและค่าหยุดงานแล้ว ถือว่าคุ้มค่ามาก
คิม: ยิ่งไปกว่านั้น การที่ AIRVISA ดำเนินงานโดยบริษัทในเครือของ SmartHR ซึ่งเป็นมืออาชีพในด้านทรัพยากรมนุษย์และแรงงานในญี่ปุ่น ก็ทำให้รู้สึกวางใจได้มากขึ้น
รีเบคก้า: ดังนั้น…
สำหรับใครที่อยากให้การต่ออายุวีซ่าง่ายขึ้น
ณ เดือนกันยายน 2024 AIRVISA รองรับเฉพาะการต่ออายุวีซ่าสำหรับประเภท "วิศวกร/ผู้เชี่ยวชาญด้านมนุษยศาสตร์/บริการระหว่างประเทศ" แต่ในอนาคตมีแผนจะรองรับประเภท "วีซ่าครอบครัว" ด้วย หากสนใจสามารถลงทะเบียนอีเมลเพื่อรับข่าวสารอัปเดตบนเว็บไซต์ของทางบริษัท