ในบทความก่อนหน้านี้ได้พูดถึงการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นJLTและJLPTที่สามารถใช้ในการวัดระดับภาษาญี่ปุ่นที่สามารถใช้ในการมาเรียนต่อและทำงานที่ญี่ปุ่น ครั้งนี้มาดูกันว่า BJT คืออะไรและต่างจาก JPT และ JLPT อย่างไร?
■ การสอบวัดระดับ BJT คือ
การสอบ Business Japanese Proficiency Test หรือ BJT คือการวัดและประเมินทักษะการติดต่อสื่อสารภาษาญี่ปุ่นอย่างเหมาะสมถูกต้องในสถานการณ์จริงเชิงธุรกิจ ปัจจุบันภาษาญี่ปุ่นถูกนำมาใช้งานในบริษัทต่างๆเป็นจำนวนมาก โดยมีการสอบทั้งในญี่ปุ่นและในต่างประเทศทั้งไทย,เวียดนาม, จีน, ไต้หวัน, ฮ่องกง, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย ที่เป็นศูนย์กลางสำคัญทางเศรษฐกิจ บริษัทที่มีบุคลากรที่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นจำนวนมาก คาดหวังให้บุคลากรที่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นมี ทักษะในการปฏิบัติงานด้วยภาษาญี่ปุ่น การสอบ Business Japanese Proficiency Test จึงเหมาะสำหรับนำมาใช้ในการพิจารณาเข้าทำงาน, การบรรจุบุคลากรในฝ่าย, การอบรมพัฒนาบุคลากร, การส่งไปดูงานที่ญี่ปุ่น เป็นต้น
บทความแนะนำ
■ BJTแตกต่างจากJLTและJLPTอย่างไร
BJT คือการวัดและประเมินทักษะการติดต่อสื่อสารภาษาญี่ปุ่นอย่างเหมาะสมถูกต้องในสถานการณ์จริงเชิงธุรกิจ สำหรับทำงานในบริษัทญี่ปุ่นหรือทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น ข้อสอบ BJT มีรูปแบบการสอบคล้ายกับข้อสอบ JPT แต่เป็นการสอบที่วัดระดับทักษะการใช้ภาษาญี่ปุ่นเชิงธุรกิจโดยมีเงื่อนไขว่าต้องมีความรู้ความเข้าใจด้านไวยากรณ์,คำศัพท์,คันจิ และใช้ความรู้ดังกล่าวในการประมวลความรู้ความเข้าใจในการใช้ภาษาญี่ปุ่นเชิงธุรกิจทั้งหมด ข้อสอบแบ่งเป็น 3 ส่วนคือการทดสอบด้านการฟัง,การทดสอบความเข้าใจรวกระดาษคำตอบ ประเมินผลโดยระบบการให้คะแนนตั้งแต่ 0-800 คะแนน แบ่งเป็น 6 ระดับตามคะแนนคือ J5 - J1+ ตามระดับคะแนน จุดเด่นที่สำคัญของการสอบ BJT นั้นก็คือ ผู้สอบสามารถรู้ผลคะแนนหลังจากสอบทันที!!
■ ระดับการสื่อสารของการสอบ BJT
ระดับ |
ระดับทักษะการใช้ภาษาญี่ปุ่นเชิงธุรกิจ |
คะแนน |
J1+ |
สามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นเชิงธุรกิจได้ในทุกสถานการณ์ |
600 – 800 คะแนน |
J1 |
สามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นเชิงธุรกิจได้อย่างเหมาะสมในธุรกิจที่หลากหลาย |
530 – 599 คะแนน |
J2 |
สามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นเชิงธุรกิจได้อย่างเหมาะสมในขอบเขตของธุรกิจที่จำกัด |
420 – 529 คะแนน |
J3 |
สามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นเชิงธุรกิจได้ในระดับหนึ่งในขอบเขตของธุรกิจที่จำกัด |
320 – 419 คะแนน |
J4 |
สามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นเชิงธุรกิจได้ในระดับเล็กน้อยในขอบเขตของธุรกิจที่จำกัด |
200 – 391 คะแนน |
J5 |
แทบไม่มีความสามารถในการสื่อสารภาษาญี่ปุ่นในเชิงธุรกิจ |
0 – 199 คะแนน |
■ ทำไมต้องสอบ BJT มีข้อดีอย่างไร
BJT เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ผลสอบภาษาญี่ปุ่นในการสมัครงานอย่างเร่งด่วนหรือใช้เพื่อการพิจารณาเลื่อนตำแหน่ง ปรับเงินเดือนหรือแม้กระทั่งส่งไปดูงานที่ญี่ปุ่น เพราะสามารถสมัครได้ทันที เลือกวันและเวลาที่ต้องการได้และที่สำคัญที่สุดคือรู้ผลสอบได้ทันที ถ้าไม่พอใจคะแนนก็สามารถลงสมัครสอบใหม่ได้เรื่อยๆโดยไม่จำกัด ถือว่าเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องใช้ผลการสอบภาษาญี่ปุ่นแบบไม่ต้องรอ
■ ตารางสอบ
มีการจัดสอบ BJT ทุกวัน สามารถเลือกวันและเวลาที่ตนเองต้องการได้ และสามารถทราบผลการสอบได้ทันทีหลังสอบเสร็จ สามารถลงทะเบียนและตรวจสอบวันเวลาและสมัครได้ ที่นี่
สรุปได้ว่า BJT นั้นมุ่งเน้นในเรื่องของการวัดและประเมินทักษะการติดต่อสื่อสารภาษาญี่ปุ่นอย่างเหมาะสมถูกต้องในสถานการณ์จริงเชิงธุรกิจ สำหรับทำงานในบริษัทญี่ปุ่นหรือทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น จึงเป็นทางเลือกหนึ่งของการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นสำหรับชาวต่างชาติที่มุ่งเน้นเพื่อจะนำไปใช้สื่อสารในการดำรงชีพ เพื่อใช้ในการทำงาน ข้อดีของการสอบ BJT คือสอบได้เรื่อยๆและและรู้ผลสอบหลังการสอบทันที จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้ผลการสอบภาษาญี่ปุ่นเพื่อสมัครงานได้ทันที ยังมีแบบทดสอบความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นมากมายให้เลือกสอบ อ่านเพิ่มเติมที่ การสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นอื่นๆนอกเหนือจาก JLPT