พูดถึงขนมญี่ปุ่นหลายคนคงจะนึกถึง โมจิ โตเกียวบานาน่า ชิโรอิโคอิบิโตะ ฯลฯ แต่วันนี้จะมาแนะนำให้รู้จักกับ もろこし โมโรโคชิ ขนมแห่งความโชคดี ขนมขึ้นชื่อของจังหวัดอาคิตะ มาทำความรู้จักกับเรื่องราวความเป็นมาของขนมแห่งความโชคดีกัน
■ もろこし โมโรโคชิ คือ
โมโรโคชิเป็นขนมขึ้นชื่อของจังหวัดอาคิตะ โมโรโคชิทำจากแป้งถั่วอะซึกิและน้ำตาลนำมาบดผสมน้ำใส่แม่พิมพ์แล้วอบให้แห้ง รสชาติหวาน โดยปกติทั่วไปโมโรโคชิจะมีลักษณะกรอบ แต่นามะโมโรโคชิหรือโมโรโคชิแบบสดจะไม่ผ่านการอบเนื้อสัมผัสจะนิ่มทานง่าย
บทความแนะนำ
■ ความเป็นมา
もろこし โมโรโคชิ เป็นแป้งเค้กแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ทำจากแป้งถั่วอะซึกิ ว่ากันว่าสูตรขนมแป้งญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมนั้นนำมาจากประเทศจีน ที่มาของคำว่า "โมโรโคชิ" พบได้ในนิฮงโชกิ (พงศาวดารของญี่ปุ่น) ซึ่งเขียนขึ้นในสมัยนารา โมโรโคชิ แปลว่า "จีน" ในนิฮงโชกิ พระจีนชื่อเจียนเจิ้นนำน้ำตาลมาเผยแพร่ที่ญี่ปุ่นในช่วงสมัยนี้ คนญี่ปุ่นทำขนมจากน้ำตาลและผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นโดยใช้สูตรจากประเทศจีน ปรับปรุงจนได้ขนมที่เป็นอาหารพื้นเมืองและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ขนมที่ผสมแป้งถั่วอะซึกิของท้องถิ่นเริ่มเป็นที่นิยมในอาคิตะ ผู้คนเริ่มเรียกขนมเหล่านี้ว่า "ขนมหวานจากประเทศจีน"
■ ขั้นตอนการทำ
แม้ว่าบางขั้นตอนจะเป็นแบบอัตโนมัติในปัจจุบัน แต่ยังคงให้คุณค่ากับวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมขั้นพื้นฐาน งานฝีมือที่ใช้เวลาและความพยายามในการผลิตไม่เคยถูกลดทอน เพื่อปรับปรุงรสชาติและเนื้อสัมผัสของ โมโรโคชิให้ดียิ่งขึ้น ขนมโมโรโคชิแบบดั้งเดิมของอาคิตะผลิตโดยขั้นตอนต่อไปนี้
1. การปลูกถั่วอะซึกิในภาษาญี่ปุ่น อะซึกิในภาษาคันจิมีความหมายตามตัวอักษรว่า "ถั่วเม็ดเล็ก" ในภาษาจีนอะซึกิมักถูกเรียกว่าถั่วแดงมักเชื่อว่าเป็นถั่วที่นำโชคมากมายมาให้
2. การตากแห้งถั่วอะซึกิ คือการปล่อยให้กิ่งที่เก็บเกี่ยวแล้วตากแดดประมาณ 15 วัน
3. แยกถั่วอะซึกิออกจากกิ่ง และนำเฉพาะเมล็ดถั่วอะซึกิออกจากฝักเท่านั้น กระบวนการนี้ทำด้วยแรงงานคน
4. คั่วถั่วอะซึกิด้วยความร้อนสูงเพื่อให้เกิดรสชาติและกลิ่นหอม ในอดีต ถั่วอะซึกิถูกคั่วแบบแมนนวลในกระทะแต่ปัจจุบันใช้เครื่องคั่วเพื่อให้ได้ผลลัพธ์เช่นเดียวกับการใช้แรงงานคน และทำให้รสชาติคงที่
5. บดถั่วอะซึกิด้วยหินโม่เพื่อทำเป็นผงละเอียด ปัจจุบันใช้โรงสีพิเศษบดถั่วอะซึกิให้ละเอียดยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้เนื้อสัมผัสของ โมโรโคชินุ่มนวลขึ้น
6. ส่วนผสม ผสมแป้งถั่วอะซึกิน้ำตาล และน้ำ อัตราส่วนของส่วนผสมและกระบวนการผสมเป็นสูตรลับสำคัญในการสร้างโมโรโคชิที่สมบูรณ์แบบ ทุกวันนี้การใช้เครื่องผสมอาหารทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่ละเอียดยิ่งขึ้น ผง Matcha หรือแป้งถั่อะซึกิถูกเติมลงในส่วนผสมเพื่อทำให้ โมโรโคชิมีรสชาติแตกต่างกันไป
7. เทส่วนผสมลงในแม่พิมพ์ โมโรโคชิเป็นขนมขึ้นรูปประเภทหนึ่งซึ่งถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมโดยใช้แม่พิมพ์เพื่อสร้างรูปร่างให้ผลิตภัณฑ์ สมัยก่อนใช้แม่พิมพ์ไม้ ปัจจุบันได้ใช้แม่พิมพ์เรซิน การปรับแต่งโดยช่างฝีมือผู้ชำนาญเพื่อสร้างรูปทรงต่างๆ ยังคงเหมือนเดิม
8. แป้งโมโรโคชิที่ขึ้นรูปแล้วจะถูกวางในเตาอบให้แห้ง อย่างไรก็ตามถ้าเป็นโมโรโคชิสดจะไม่ได้ทำให้แห้งด้วยเตาอบ
9.ย่างพื้นผิว สำหรับการตกแต่งขั้นสุดท้ายพื้นผิวของโมโรโคชิที่แห้งแล้ว ย่างพื้นผิวโดยควบคุมอุณหภูมิและเวลา โมโรโคชิชนิดที่บางกว่านั้นต้องการการควบคุมอุณหภูมิและเวลาที่เข้มงวดยิ่งขึ้นเนื่องจากจะส่งผลอย่างมากต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย
■ อาคิตะโมโรโคชิ ขนมแห่งความโชคดี
การปรุงถั่วอะซึกิ ที่นำมาซึ่งความโชคดี ด้วยวิธีการอันเป็นเอกลักษณ์ของอาคิตะ ส่วนผสมหลักของ もろこし โมโรโคชิ คือถั่วอะซึกิ ในประวัติศาสตร์ถั่วอะซึกิถูกปลูกในอาณาจักรเดวะ (พื้นที่รวมถึงจังหวัดอาคิตะในปัจจุบัน) ประเพณีการหุงข้ากับถั่วอะซึกิ เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษยังคงดำเนินเรื่อยมาจึงถือว่าถั่วอะซึกิ ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย ในชีวิตประจำวันของผู้คนในอดีต ในสูตรขนมดั้งเดิมของญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ถั่วอะซึกิจะนำมาเคี่ยวกับน้ำตาลเพื่อทำโมโรโคชิ กลิ่นหอมของถั่วอะซึกิคั่วจะกระจายไปทั่วปากทุกครั้งที่กัด ด้วยความที่มีรสหวานจึงแนะนำให้รับประทานคู่กับการจิบชายามบ่าย
ใครมีโอกาสมาเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุ ได้แวะมาจังหวัดอาคิตะแล้วละก็ นอกจากจะไปเยี่ยมอาคิตะอินุแสนน่ารักกันแล้วอย่าลืมซื้อ もろこし โมโรโคชิ ขนมแห่งความโชคดีกลับไปเป็นของฝากด้วยนะ